
ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ถนนเจริญเมือง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระองค์แสน ปีที่ 73 พร้อมด้วย นางชุติมา รู้ยิ่ง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำจังหวัดขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน นักท่องเที่ยว และประชาชน ทั้งในพื้นที่ 18 อำเภอของจังหวัดสกลนคร ต่างจังหวัด และ ชาว สปป.ลาว เข้าร่วมงาน ด้านคณะสงฆ์ มีพระธรรมวชิรนายก เจ้าคณะภาค 8 เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระเทพสิทธิโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระราชวชิราทร เจ้าคณะจังหวัดสกลนครนำคณะสงฆ์ ร่วมพิธี สำหรับงานเทศกาลนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระองค์แสน ปีที่ 73 จัดขึ้นโดยจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีพิธีเปิดงานในวันที่ 7 มกราคม 2568 และกำหนดจัดงาน ไปจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ของทุกปีสำหรับปีนี้ได้นำทองก้อนข้าวใหญ่ หรือ เมล็ดข้าวใหญ่ ที่ประดิษฐานภายในอุโมงค์องค์พระธาตุเชิงชุม ออกมาให้กับประชาชนที่มาร่วมงานได้ร่วมปิดทอง เป็นครั้งแรก ชาวสกลนครเชื่อกันว่านี่คือเมล็ดข้าวในตำนานนางโพสพ วรรณกรรมอิงพระพุทธศาสนาที่กล่าวถึงที่มาของข้าวอันเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์








โดยช่วง Highlight ของพิธีเปิดงาน คือการรำบูชาองค์พระธาตุเชิงชุม ที่บริเวณลานด้านหน้าองค์พระธาตุเชิงชุม มีนางชุติมา รู้ยิ่ง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร รองนายกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วย นางรำจากทั้ง 18 อำเภอ รวมกว่า 5,000 คน ในชุดเผ่าภูไทสกลนคร ดำ-แดง ร่วมรำบูชา ถวายองค์พระธาตุเชิงชุม เพื่อความเป็นสิริมงคล
พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระองค์แสน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสกลนคร โดยพระธาตุเชิงชุม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสกลนครมาตั้งแต่สมัยล้านช้าง เมื่อตั้งเมืองสกลทวาปี และสถาปนาเป็นเมืองสกลนครจนถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ได้มาประทับรอยพระพุทธบาทไว้ เพื่อเป็นที่สักการะแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าสุวรรณภิงคาระ เจ้าเมืองหนองหารหลวง ได้สร้างเจดีย์ครอบไว้และตั้งชื่อว่าพระธาตุเชิงชุม สำหรับหลวงพ่อพระองค์แสนถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสกลนคร ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร มีพุทธลักษณะที่งดงาม จัดอยู่ในสกุลศิลปะเชียงแสน ปางมารวิชัย