
จากกรณ์มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Bualai Khamhanphon” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์เผาในที่แจ้งที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เพลิงที่ลุกโชนอย่างแรง มีกลุ่มควันและฝุ่นลอยขึ้นเหนือท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนก็ส่งผลทำให้ท้องฟ้าสว่างไสว มีสีแดงจนหน้ากลัว ในคลิประบุว่าเป็นการเผาอ้อย จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงคลิปดังกล่าว ว่าเป็นการทำให้สภาพอากาศแย่ลง เนื่องจากประเทศไทยกำลังประสบปัญหากับฝุ่น PM 2.5 หลายพื้นที่โดยเฉพาะเมืองใหญ่ เหตุเกิดคืนวันที่ 24 มกราคม 2568









ต่อมาในเวลา 14.00 น.วันที่ 25 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบผู้ที่ถ่ายคลิป และเป็นคนโพสต์ภาพการเผาไร่อ้อย แต่ไม่ประสงค์จะให้สัมภาษณ์ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย บอกแต่เพียงว่าที่เกิดเหตุ เป็นไร่อ้อยในพื้นที่ ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี อยู่ติดถนน ทล.2315 ดังนั้นจึงเดินทางไปที่ไร่อ้อยดังกล่าว พบว่ามีพื้นที่ประมาณ 15 ไร่ มีร่องรอยตัดอ้อยสดด้วยเครื่องจักร และเผาใบอ้อยที่กองทิ้งไว้จนแห้งเป็นบริเวณกว้าง
จากสอบถามนายศิริธร คำสุ่ย อายุ 49 ปี ที่มีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไร่อ้อยดังกล่าว เปิดเผยว่า ไร่อ้อยผืนนี้เป็นของนายทุนในตัวเมืองอุดรธานี น่าจะมาเช่าทำการเกษตร ปลูกอ้อยและมันสำประหลังสลับกัน ปีก่อนปลูกมันสำหลัง ปีนี้ปลูกอ้อย นายทุนใช้เครื่องจักรหนักเก็บเกี่ยวอ้อยสดในไร่นี้ จะพบใบอ้อยกองอยู่ในไร่จำนวนมาก เมื่อคืนนี้ที่มีคลิปบอกว่ามีการเผาใบอ้อย ตนไม่เห็นเพราะเข้านอนแต่หัวค่ำ และไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการเผาไร่อ้อยในครั้งนี้
ส่วนนายหนู อ่อนอุบล อายุ 83 ปี ปราชญ์ชาวบ้าน บ้านหมากหญ้า ให้ข้อมูลว่า ทำไร่อ้อยจำนวนมาก การเก็บเกี่ยวอ้อยด้วยการเผาไฟเกษตรกรไม่อยากจะทำ เพราะอ้อยตอ 1-2 จะมีลำต้นใหญ่ทำให้ตัดง่าย แต่จะเผาช่วงอ้อยตอ 3-4 เพราะจะทำให้มีต้นทุนต่ำ ทำให้ชาวไร่มีกำไรมาก อ้อยจะมีลำต้นเล็ก หากเกษตรกรตัดอ้อยสดก็จะเปลืองค่าแรง ต้นทุนตัดสูงจะไม่มีกำไร จึงนิยมการเผามากกว่าเพราะจะได้กำไร
“ส่วนไร่อ้อยที่เผาเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่ไร่อ้อยของชาวบ้าน เป็นของนายทุน ไม่ทราบว่าซื้อหรือเช่าเพราะไม่ทราบรายละเอียด การตัดอ้อยสดส่งโรงงานแล้วค่อยกลับมาเผาใบไม่เคยเห็น ส่วนใหญ่จะเผาก่อนค่อยตัด ส่วนปัญหาเรื่องฝุ่นกระทบกระเทือนกับสุขภาพประชากร ก็อยากให้ระงับการเผา หากชาวไร่มีต้นทุนในการตัดอ้อยสูงและเดือดร้อน ก็แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณาการช่วยเหลือ และหาทางแก้ไข ซึ่งหลังเผาอ้อยก็จะมีเศษฝุ่นใบอ้อยสีดำปลิวมาตกในบ้านแต่ก็ไม่นานเศษใบอ้อยก็จะหายไปซึ่งชาวบ้านแถวนี้ไม่มีปัญหากับฝุ่นจากการเผาอ้อย”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังมีคลิปการเผาไร่อ้อยที่ อ.หนองวัวซอ จนเป็นทะเลเพลิงออกมา ทำให้ นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี ได้สั่งให้มีการตรวจสอบว่ามีการเผาไร่อ้อยในพื้นที่ใด ในไลน์กลุ่มเผา พร้อมกับสั่งให้นายอำเภอทั้ง 20 อำเภอ บังคับใช้กฎหมาย เกี่ยวกับการเผาในที่แจ้ง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่ มีทั้งการเผาในพื้นที่เอกชน การเผาในพื้นที่สาธารณะ การเผาในพื้นที่ข้างทางหรือถนน การเผาในพื้นที่ป่าไม้ และการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งจะมีโทษทั้งจำคุก และโทษปรับ ในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน และหากพบว่าผู้เผาเป็นเกษตรกรที่อยู่ในโครงการพัฒนาศักยภาพ ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ร่วมโครงการทันที