
ที่หอประชุมอำเภอสว่างแดนดิน นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในการประชุมมอบนโยบายแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5 ) พร้อมด้วย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร เกษตรจังหวัดสกลนคร ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสกลนคร ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดสกลนคร ผู้แทน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสกลนคร และผู้แทนผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสกลนคร ร่วมให้ข้อมูล โดยมีนายสมชาย จันทร์งาม นายอำเภอสว่างแดนดิน พร้อมด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมในการรับมอบนโยบาย










โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้นำมาตรการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ภาคการเกษตร ปี 2567/68 ตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ 17 มกราคม 2568 เพื่อกำชับการปฏิบัติตามมาตรการ เนื่องจากพบว่ายังมีการเผาในพื้นที่การเกษตร และ พื้นที่เขต ส.ป.ก. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงไปสร้างความเข้าใจและสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรเกี่ยวกับผลกระทบและแนวทางการแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม แล้ว หากพบมีการเผา ขอให้บันทึกรายชื่อเกษตรกรที่เป็นเจ้าของพื้นที่ไว้พิจารณา งดให้การช่วยเหลือของรัฐทุกกรณี และหากเป็นการเผาในพื้นที่ ส.ป.ก. เกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตในที่ดินแปลงนั้นต้องรับผิดชอบ พร้อมถูกดำเนินการตามข้อบังคับทางกฎหมาย โดยสั่งให้เกษตรกรสิ้นสิทธิ ในการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน และ แจ้งให้ออกจากพื้นที่
นอกจากนี้ ยังได้กำชับแนวทางมาตรการยกระดับ การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด สั่งการหน่วยงานดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในทุกมิติ ตั้งแต่การลดปริมาณฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิด ทั้งการเผาในที่โล่ง ภาคคมนาคมขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม และการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงให้พิจารณาออกประกาศกำหนดการควบคุมการเผาล่วงหน้า และบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายในการห้ามเผาอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยกระดับมาตรการป้องปรามเพื่อควบคุมการเผาในพื้นที่อย่างจริงจัง โดยใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่ ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและจัดทำบัญชีผู้มีพฤติกรรมการเผา ทั้งพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ป่า พื้นที่เขตชุมชนเมือง และร่วมกับประชาชนสอดส่อง ป้องปราม ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายห้ามเผาอย่างเด็ดขาด ตลอดจนยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ เด็ก และผู้ทำงานกลางแจ้ง โดยให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนในการป้องกันตนเองอย่างถูกต้อง จัดหาอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น และจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) ไว้บริการประชาชน หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องให้พิจารณาประกาศใช้มาตรการ Work From Home อีกทั้งระดมสรรพกำลังจากหน่วยทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ องค์กรการกุศล และภาคประชาชน รวมถึงเครื่องจักรกลสาธารณภัย และทรัพยากรอื่น ๆ ให้พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติการแก้ไขปัญหา หากมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนทรัพยากรในพื้นที่ ให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว เพื่อลดความเสียหายและลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด กรณีที่สถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติงานจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่เข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟป่า โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ขอให้ผู้บังคับบัญชากำชับดูแลการปฏิบัติงาน สวัสดิภาพและสวัสดิการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์และการดำเนินงานของภาครัฐผ่านสื่อทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความจำเป็นในการควบคุมการเผา การบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการร่วมแก้ไขปัญหาในพื้นที่และเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้น