
ที่ห้องประชุมภูกระดึง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานการประชุมเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยมี นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสามารถ หมั่นนอก ปลัดจังหวัดเลย นายโกวิท แสนสุข ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย พ.ต.ท.คูณทัต วีระศักดิกุล หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม และอำเภอทั้ง 14 อำเภอ ร่วมประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์





นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า จังหวัดเลย ได้มีประกาศฯ ลงวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568 เรื่อง กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดโดยเด็ดขาด ในพื้นที่จังหวัดเลย ประจำปี พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดเลย แต่เนื่องจากยังคงปรากฏพบจุดความร้อน (Hotspot) และมีค่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐานในพื้นที่จังหวัดเลยเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเผา ในที่โล่ง ทำให้คุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเลย เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อหารือและรายงานผลการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเลย
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มีข้อสั่งการ ให้เปลี่ยนชื่อการดำเนินการจาก “การเคาะประตูไร่” เป็น “เคาะประตูบ้าน” เพื่อสร้างการรับรู้ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในการดำเนินการเคาะประตูบ้านมี 3 มิติ คือ 1) การสร้างการรับรู้ เช่น จังหวัดมีประกาศห้ามเผา การเผาอ้อยแล้วมีอันตรายต่อสุขภาพสร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างไร 2) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ต้องเข้าไปดูเรื่องการไถกลบตอซังข้าว การทำปุ๋ยชีวมวล และ 3) การบังคับใช้กฎหมาย จะดำเนินการในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อมีการสร้างการรับรู้และการให้ความช่วยเหลือแล้วเกษตรกรยังมีเจตนาที่จะเผา จึงจะต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ของแต่ละหน่วยงาน