วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเวลา 21.33 น. วันที่ 7 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 1669 สุรินทร์รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กชายถูกยิงกระสุนฝังอยู่ที่ต้นคอที่บริเวณบ่อระเบิด ม .4 บ้านละหุ่ง ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานกู้ชีพนาบัว และกู้ภัยสุรินทร์จุดนาบัว พร้อมกับ ร.ต.อ.ธสิทธิ์ นุติกรพิพัฒ รอง สว.สอบสวน สภ.สวาย จ.สุรินทร์ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุและให้การช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สวาย ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุบริเวณบ่อระเบิด ม 4 บ้านละหุ่ง ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุไม่มีไฟส่องสว่างมืดมาก โดยพบรถจักรยานยนต์ยามมาฮ่าสีดำน้ำเงินล้มอยู่ และพบปลอกกระสุนปืน 9 ม.ม.ตกอยู่ พร้อมกันนี้ยังพบแกลอนใส่น้ำมันตกอยู่และถุงใส่ปลา ซึ่งมีปลาอยู่ในถุง พร้อมกันนี้ไม่พบคนก่อเหตุที่ยิงผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยทราบว่าญาติได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บมาส่งที่ศูนย์กู้ชีพนาบัวทราบชื่อต่อมาชื่อ นาย ธนพัต ลายแก้ว(ผู้ได้รับบาดเจ็บ) อายุ 15 ปี มีบ้านพักอาศัยเลขที่ 137 หมู่ 11 ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบว่ามีบาดแผลถูกยิงที่ด้านหลังบริเวณบ่ากระสุนฝังในช่วงลำคอใกล้คอหอย กู้ชีพนาบัวได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์
จากการสอบถาม ร.ต.อ.ธสิทธิ์ นุติกรพิพัฒ รอง สว.สอบสวน สภ.สวาย จ.สุรินทร์ ทราบว่านาย ธนพัต ลายแก้ว(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)นั้นได้มากับพวกอีก 3 คน และพากันมาขโมยน้ำมันดีเซลที่บริเวณบ่อระเบิดที่คนก่อเหตุยิงใส่ได้มาสูบปลาไว้ ซึ่งทั้ง 4 คนจะมาขโมยบ่อยมาก โดยค่ำวันนี้ก็พากันมาแต่ไม่รู้ว่าเจ้าของเฝ้าอยู่ ซึ่งพอผู้ก่อเหตุสังเกตุเห็นก็หยิบอาวุธปืน 9 ม.ม.ที่นำติดตัวมายิงขึ้นฟ้า 3 นัดเพื่อไล่ให้ออกจากพื้นที่ โดยทั้ง 4 คนก็รีบวิ่งสตาร์รถจักรยานยนต์รีบวิ่งขึ้นรถหนีออกไป แต่ผู้ก่อเหตุได้วิ่งตามและได้ใช้อาวุธยิงใส่เข้าไปอีกนัด โดยห่างกันประมาณ 50 เมตร ซึ่งลูกกระสุนนัดที่ 4 ได้พุ่งเข้าที่หลังของ ด.ช.ธนพัต ลายแก้ว(ผู้ได้รับบาดเจ็บ) พร้อมกับผู้ก่อเหตุก็ได้วิ่งหนีออกไปกลัวความผิดที่กระทำลงไป โดยได้ตั้งข้องหาเบื้องต้นกับ ด.ช.ธนพัต ลายแก้ว(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)กับพวกอีก 3 คน ในข้อหาลักทรัพย์ในยามวิกาล
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สวาย ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อติดตามผู้ก่อเหตุ โดยทราบตัวแล้ว ซึ่งกำลังประสานญาติผู้ก่อเหตุให้บอกมามอบตัว ซึ่งผู้ก่อเหตุได้หลบหนีอยู่ภายในหมู่บ้าน ซึ่งยังไม่ได้ตั้งข้อหาพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และต้องสอบสวนผู้ก่อเหตุอีกครั้ง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
