
กลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดอุดรธานี รวมตัวยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เร่งติดตามทวงถามความช่วยเหลือเงินสนับสนุนค่าตัดอ้อยสดจากรัฐบาล หลังทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนพย.66 ยังไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด

เมื่อเวลา10.00น.วันที่13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี กลุ่มเกษตรกรชาวไร้อ้อยจังหวัดอุดรธานี นำโดยนายนิยม ตอนเหนือ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เพื่อติดตามทวงถามความช่วยเหลือเงินสนับสนุนค่าตัดอ้อยสดจากรัฐบาล โดยนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี ติดภารกิจมอบหมายให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี รับเรื่องแทน

กล่าวคือ เมื่อฤดูกาลหีบอ้อย ปี พ.ศ.2566/2567 ที่ผ่านมานั้น เกษตรกรชาวไร่อ้อยหลายราย ได้ดำเนินการตัดอ้อยสด โดยไม่ทำการเผาอ้อย เพื่อสนองนโยบายการลดฝุ่น PM. 2.5 ของรัฐบาล ซึ่งในการดำเนินการตัดอ้อยสดโดยไม่ทำการเผาอ้อยนั้น จะมีต้นทุนที่ต้องจ่ายให้แก่แรงงานในอัตราที่สูงกว่าปกติ แต่เกษตรกรชาวไร่อ้อยก็ยอมที่จะสนองนโยบายรัฐบาล เนื่องจากในฤดูการหีบอ้อยที่ผ่านมา 3 ปี รัฐบาลได้มีนโยบายให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ที่ตัดอ้อยสดเป็นเงิน จำนวน 120 บาท/ตันอ้อย เพื่อเป็นการจูงใจและเพิ่มต้นทุนให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ดำเนินการตัดอ้อยสดส่งแกโรงงานเพื่อลดฝุ่น PM. 2.5 ทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยดำเนินการตัดอ้อยสดส่งแก่โรงงาน แต่การดำเนินการตัดอ้อยสดดังกล่าว เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องแบกรับภาระต้นทุนแรงานที่สูงขึ้น จนทำให้ประสบปัญหาขาดทุนในการปลูกอ้อย



ต่อมาเมื่อเกษตรกรชาวไร่อ้อย ได้ดำเนินการตัดอ้อยสดเพื่อส่งโรงงานในฤดูกาลหีบอ้อย ปี พ.ศ.2566/2567 ปรากฏว่า รัฐบาลก็มิได้ให้เงินช่วยเหลือในการตัดอ้อยสดของเกษตรกรชาวไร่อ้อยเหมือนที่ผ่านมาแต่อย่างใด เกษตรกรชาวไร่อ้อย จึงได้ทวงถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้รับคำตอบทุกครั้งว่าจะมีการดำเนินการที่จะช่วยเหลือเงินให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยอย่างแน่นอน แต่ไม่ปรากฏว่าเมื่อใดจะดำเนินการให้ จนถึงปัจจุบันก็ยังมิได้รับ อีกทั้ง เกษตรกรชาวไร่อ้อยยังได้รับฟังจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้ตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้ทำการดำเนินการขอเงินช่วยเหลือดังกล่าวให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยไปต่อคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 แต่ยังมิได้รับการบรรจุเข้าในวาระการประชุมของคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการอนุมัติเงินช่วยเหลือดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในฤดูกาลหีบอ้อยในปี พ.ศ.2567/2568 รัฐบาลก็ได้มีนโยบายที่จะลดปัญหาฝุ่น PM.2.5 อย่างเคร่งครัด โดยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดส่งเข้าสู่โรงงานเพื่อลดการเผาอ้อย ซึ่งเกษตรกรชาวไร่อ้อยก็ตอบสนองนโยบายของของรัฐบาลเป็นอย่างดี แต่เกษตรกรชาวไร่อ้อยก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายค่าแรงงานตัดอ้อยสดที่สูงขึ้น ทำให้มีต้นทุนในการทำอ้อยส่งเข้าโรงงานสูงขึ้น จนเป็นปัญหาทำให้เกิดสภาวะขาดทุนในการทำอ้อยเนื่องจากราคาอ้อยก็ตกต่ำ ปัจจุบันรัฐบาลก็ยังมิได้มีนโยบายที่จะช่วยเหลือการตัดอ้อยสดของเกษตรกรชาวไร่อ้อยแต่อย่างใด ทั้งที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสดเพื่อสนองนโยบายรัฐบาลเป็นอย่างดี

ด้วยเหตุดังกล่าวมาแล้วข้างต้น จึงขอให้ท่านผู้ว่าฯในฐานะพ่อเมืองซึ่งดูแลทุกข์สุขประชาชน ได้โปรดติดตามทวงถามเงินช่วยเหลือการตัดอ้อยสดในฤดูกาลหีบอ้อย ปี พ.ศ.2566/2567 ให้ด้วย และขอให้เร่งติดตามถามถึงความชัดเจนในการที่รัฐบาลจะทำการช่วยเหลือเงินในการตัดอ้อยส่งเข้าโรงงานในฤดูกาลหีบอ้อย ปี 2567/2568 นี้ด้วย เนื่องจากเกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสประสบปัญหาภาวะชาดทุนในการทำอ้อยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองนโยบายที่จะลดฝุ่น PM.2.5 ของรัฐบาล.