
จังหวัดยโสธรนำคู่สมรสไปจดทะเบียนต่อหน้าพญาแถนภายในแลนด์มาร์ควิมานพญาแถนเพื่อให้พญาแถนเป็นสักขีพยานและยังเป็นการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธรขณะเดียวกันที่สำนักทะเบียนอำเภอเมืองยโสธรก็ต่างมีคู่สมรสถือเอาฤกษ์วันวาเลนไทน์จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสจำนวนมาก

ที่บริเวณวิมานพญาแถน ริมฝั่งลำน้ำทวน เขตเทศบาลเมืองยโสธร นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ขรรค์ชัย ทันธิมา และ นายสันชัย พัฒนะวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ทั้ง 2 คน ได้ร่วมเป็นสักขีพยานและมอบใบทะเบียนสมรสให้กับคู่สมรส จำนวน 3 คู่ ที่ได้ถือเอาฤกษ์วันวาเลนไทน์จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสต่อหน้ารูปปั้นพญาแถนที่ตั้งอยู่ภายในวิมานพญาแถน ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดยโสธร ซึ่งพญาแถนเป็นเทพแห่งฝนและเทพแห่งท้องฟ้าจึงมีแต่ความชุ่มฉ่ำให้ความอุดมสมบูรณ์แก่โลกมนุษย์ ตามตำนานของประเพณีบุญบั้งไฟที่พญาแถนเกิดความไม่พอใจโลกมนุษย์จึงกลั่นแกล้งโลกมนุษย์โดยไม่ปล่อยให้ฝนตกลงมายังโลกมนุษย์เป็นเวลาถึง 7 ปี 7 เดือน จนสร้างความเดือดร้อนให้กับโลกมนุษย์ ต่อมาพญาคันคาก ซึ่งเป็นอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่ถือชาติกำเนิดเป็นพญาคันคากจึงขอรับอาสาที่จะรวบรวมไพร่พลขึ้นไปสู้รบกับพญาแถนจนสามารถเอาชนะพญาแถนและมีข้อตกลงกันว่าขอให้พญาแถนปล่อยฝนลงไปยังโลกมนุษย์โดยเมื่อโลกมนุษย์ต้องการฝนจะมีการจุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้พญาแถนทราบว่าถึงฤดูกาลทำนาแล้วขอให้พญาแถนปล่อยฝนลงไปทันที






ขณะเดียวกันที่สำนักทะเบียนอำเภอเมืองยโสธรก็ต่างมีคู่สมรสจำนวนหลายคู่ถือเอาฤกษ์วันวาเลนไทน์จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสกันอย่างคึกคักโดยที่ทางสำนักทะเบียนอำเภอเมืองยโสธรได้จัดมุมถ่ายรูปให้กับคู่สมรสที่ไปจดทะเบียนสมรสในวันนี้ได้ถ่ายรูปอย่างหวานชื่นกลับไปเป็นที่ระลึกด้วย โดยตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเที่ยงวันนี้มีคู่สมรสเดินทางมาจดทะเบียนสมรสกับสำนักทะเบียนอำเภอเมืองยโสธร จำนวน 21 คู่ คู่สมรสอายุสูงสุด 41 ปีโดยคู่สมรสส่วนใหญ่จะเป็นคู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยามาหลายปีแล้วและพึ่งจะมาจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมายในวันนี้