
ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ส่งชุดสืบสวนออกไล่ล่า “สิทธิ์นาแก” หนุ่มชาวจังหวัดชัยภูมิวัย 38 ปี มือแทงเมียสาหัส และญาติบาดเจ็บ 4 ราย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและได้รับบาดเจ็บ คาดยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ด้านแม่เหยื่อ ระบุหากจับได้ให้ดำเนินคดีข้อหาหนักสุด


ความคืบหน้านายประสิทธิ์ โพธิ์ใต้ หรือสิทธิ์นาแก อายุ 38 ปี ต.นาแก อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ก่อเหตุบุกแทง น.ส.นันทิดา แน่นอุดร อายุ 44 ปี ภรรยา ชาว ต.กลางหมื่น อ.เมือง กาฬสินธุ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และญาติได้รับบาดเจ็บรวม 4 คน โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามล่าตัวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ออกติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยแยกกำลังออกเป็น 3 ชุด ตรวจสอบตามสถานที่ต่างๆ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ขณะที่พนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวนางบุญมี แน่นอุดร อายุ 65 ปี มารดาของ น.ส.นันทิดา และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาสอบปากคำที่โรงพัก


โดยนางบุญมี กล่าวว่า ลูกสาวอยู่กินกับนายประสิทธิ์แบบสามีภรรยา มาประมาณ 4-5ปีแล้ว ซึ่งปกตินายประสิทธิ์จะไม่มีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง และไม่ค่อยทำมาหากิน จะให้ลูกสาวเป็นผู้ทำงานหาเงินคนเดียว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องครอบครัวของลูกสาวมากสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ทำงานที่ต่างจังหวัด นานๆครั้งจะกลับมาบ้าน แต่ก็พอที่จะทราบความเป็นอยู่ว่าลูกสาวทำงานคนเดียว ส่วนลูกเขยไม่ค่อยทำงาน และที่ผ่านก็มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เนื่องจากคาดว่าลูกเขยนั้นมีประวัติเสพยาเสพติด ซึ่งหากวันไหนเสพยาก็จะมีอาการ ผิดปกติเป็นคนอารมณ์ร้อนพูดจาข่มขู่ หลายครั้ง
นางบุญมี กล่าวต่อว่า ในวันเกิดเหตุลูกสาวได้กลับมาจากบ้านของนายประสิทธิ์ที่ จ.ชัยภูมิมาที่บ้าน จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นนายประสิทธิ์ได้ขับรถเก๋งตามมาง้อ และให้ลูกสาวกลับไปที่จ.ชัยภูมิด้วย แต่เนื่องจากลูกสาวไม่ยอมกลับ เพราะทนกับพฤติกรรมของสามีไม่ไหว ทำให้นาย ประสิทธิ์ ซึ่งขณะนั้น มีอาการโมโห อารมณ์ร้อน ดุร้าย คาดว่าเสพยามาด้วย ได้ตะโกนขู่ฆ่าล้างโคตร ก่อนใช้มีดพกติดตัวมาวิ่งเข้าไปแทงลูกสาวจนนอนล้มลงกับพื้น
ขณะนั้นนายเจริญ แน่นอุดร สามี และหลานอีก 2 คน เห็นเหตุการณ์ได้พยามห้ามและช่วยเหลือ แต่กลับถูกนายประสิทธิ์ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ไปตามๆกัน หลังเกิดเหตุได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปทั้งนี้อยากให้ตำรวจเร่งจับตัวมาดำเนินคดี โดยเร็ว และให้ได้รับโทษหนักที่สุดเพราะถือว่ามีเจตนาที่จะฆ่าลูกสาว แต่โชคดีไม่ถึงกับชีวิต และต่อจากนี้ไปตนและครอบครัวจะไม่รับนายประสิทธิ์มาเป็นลูกเขยอีกต่อไป ทั้งนี้อาการของลูกสาวตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ยังคงรักษาตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะปอดฉีด ส่วนอาการผู้บาดเจ็บอีก 3 คน ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล


ด้านพ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีแล้ว โดยแยกเป็น 3 ทีม คาดว่าน่าจะยังอยู่ในพื้นที่ ส่วนมูลเหตุนั้นเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากผู้ก่อเหตุตามมาง้อขอคืนดีกับภรรยาแต่ไม่สำเร็จจึงเกิดความโมโหและก่อเหตุดังกล่าว
พ.ต.อ.วีระ กล่าวอีกว่า ขณะเกิดเหตุมีพยานหลักฐาน และผู้เห็นเหตุการณ์ชัดเจน ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับนายประสิทธิ์ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามผู้ก่อเหตุที่หลบหนีอยู่ขณะนี้มีอาวุธมีดไปด้วย จึงขอฝากถึงผู้นำชุมชน และประชาชนที่พบเห็นหรือมีเบาะแสให้รีบเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน และขอเวลาให้ตำรวจทำงานสักระยะ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถติดตามตัวได้ในเร็วๆนี้

ด้านนายบอย มาพร อายุ 28 ปี หลานชายผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองรวมทั้งญาติญาติ และเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงทั้งสองคนทะเลาะกันเสียงดังจึ งพากันออกมาดู ซึ่งตอนนั้นจับใจความได้ว่านายประสิทธิ์ได้มาตามน้าของตน ให้กลับไปที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งลักษณะทะเลาะกัน ด้วยความหึงหวง นายประสิทธิ์เข้าใจไปเองว่าน้าของตนกลับมาที่ จ.กาฬสินธุ์อาจจะมีผู้ชายคนใหม่ ซึ่งที่จริงแล้วน้าสาวของตนนั้นหนีกลับมา เนื่องจากตนพฤติกรรมของนายประสิทธิ์ไม่ได้ เพราะเคยได้ยินว่าทะเลาะกันบ่อยครั้ง และยังเคยใช้ปืนยิงข่มขู่ด้วย กระทั่งล่าสุดก็ได้มาเกิดเหตุขึ้นที่บ้านของน้า
ทั้งนี้ช่วงเกิดเหตุตา พี่สาว และน้องชาย ได้พยายามห้ามแต่ก็ยังถูกนายประสิทธิ์ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งช่วงนั้นชุลมุนทุกคนพยายามช่วยกันห้าม และจับตัวนายประสิทธิ์ เนื่องจากมีอาวุธมีดอยู่ด้วยจึงไม่สามารถจับตัวได้ก่อนจะขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป