
ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองคาย นางลภัสรดา ราชนิช อายุ 51 ปี พร้อมทีมงานเข้ายืนหนังสือขอความเป็นธรรม เพื่อวินิจฉัยบัตรดี บัตรเสีย เลือกผู้ใหญ่บ้านหรือให้นับคะแนนใหม่ เคยร้องไปที่อำเภอเมืองแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรม นางลภัสรดาฯ เปิดเผยว่า ตามที่ตน ได้มีหนังสือร้องเรียนถึงนายอำเภอเมืองหนองคาย เรื่องคัดค้านการเลือกผู้ใหญ่บ้าน บ้านดาวเรือง ม.6 ค.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ฉบับลงวันที่ 24 มกราคม 2568 และฉบับลงวันที่ 27 มกราคม 2568 และฉบับลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ในเนื้อหาคำร้อง ขอให้นายอำเภอเมืองหนองคาย ให้วินิจฉัยบัตรเสียใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เพราะในการวินิจฉัยบัตรดี บัตรเสีย ของนางสาวปัทมารัตน์ เที่ยงสุขา ปลัดอำเภอเมืองหนองคาย วินิจฉัยเพียงคนเดียวและการวินิจฉัยบัตรเสียของนางสาวปัทมรัตน์ เที่ยงสุขา ปลัดอำเภอเมืองหนองคาย นอกจากใช้แนวทางบัตรเสียของระเบียบเลือกผู้ใหญ่บ้านนั้น ผู้วินิจฉัยใช้หลักการใดในการวินิจฉัยเป็นบัตรเสีย









จากผลการเลือกผู้ใหญ่บ้าน บ้านดาวเริง ม.6 ต. โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคายผลที่ได้ดังนี้
ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 207 ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้คะแนน 210 ซึ่งตนเป็นผู้สมัครหมายเลข 1 และตามที่นั่งดูการขานคะแนนเพื่อนประชาชนที่ร่วมด้วย บัตรเสียที่ทางกรรมการวินิจฉัยว่าเป็นบัตรเสียนั้น หมายเลข 1 จะมีบัตรเสียมากกว่า และบัตรที่เหลือที่ทางท่านกรรมการวินิจฉัยนั้น ที่ตนมีความสงสัยและคับข้องใจในการวินิจฉัยบัตรเสียนั้น ประมาณ 9-10 ใบ ที่ตนมองเห็นคิดว่าเป็นบัตรดี ทางกรรมการที่วินิจฉัยเป็นบัตรเสียคือ นางสาวปัทมรัตน์ เที่ยงสุขา ปลัดอำเภอเมืองหนองคายได้ให้เหตุผลว่าบัตรเสียเพราะสองจุดตัด
ดังนั้นตนมีความประสงให้ศูนย์ดำรงธรรมดำเนินการ ให้มีการวินิฉัยบัตรเสียใหม่ ทั้ง 19 ใบ เนื่องผู้วินิจฉัย บัตรเสีย วินิจฉัยคนเดียว โดยไม่ปรึกษาหรือขอความคิดเห็นจากกรรมการท่านอื่น ขอให้ชะลอการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านดาวเรือง หมู่ที่ 6 ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ไว้ก่อน จนกว่าผลการวินิจฉัยบัตรเสียจะแล้วเสร็จ เพื่อลดความขัดแย้งในระดับหมู่บ้านและตำบล..