
วันที่ 1 มี.ค.2568 เจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมทำลายใต้น้ำ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) รับแจ้งจากชาวบ้านและญาติ ประสานเพื่อขอความช่วยเหลืองมร่างผู้สูญหายใต้น้ำ หลังพลัดตกตลิ่งแม่น้ำโขง ใต้ระเบียงหน้าร้านหมูกะทะแห่งหนึ่ง บ้านท่าควาย ชุมชนท่าควาย ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม หลังรับแจ้งจึงนำเรือลาดตะเวน 2 ลำพร้อมนักประดาน้ำ 10 นาย ล่องเรือตระเวนออกค้นหาร่างผู้สูญหาย ทราบชื่อภายหลังคือนายธนวิทย์ วัย 24 ปี ชาวชุมชนหนองบึก ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยเจ้าหน้าที่ขับเรือเลาะริมตลิ่ง จุดที่คาดว่าจะตกน้ำตามลำบอกเล่าของชาวบ้านที่พบเห็น

เจ้าหน้าที่วางทุ่นงมค้นหาใต้น้ำ ห่างจากระเบียงชมวิวร้านดังกล่าว จุดตกราว 50 เมตรนานร่วม 2 ชั่วโมง กระทั่งพบร่างจมดิ่งอยู่ใต้น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม จึงกู้ร่างนายธนวิทย์ขึ้นมาจากริมน้ำด้านล่างของตลิ่งที่สูงชันลึก 7-8 เมตร อย่างทุลักทุเล นำส่งห้องดับจิต รพ.นครพนม เพื่อให้แพทย์เวร และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ชันสูตรพลิกศพสาเหตุการเสียชีวิต อย่างละเอียดอีกครั้ง

ชาวบ้านที่รดน้ำผักริมฝั่งโขง 2 คน กล่าวว่า ขณะรดน้ำผักช่วงเช้าพบเห็นชายหนุ่ม เดินลงมาจากร้านหมูกระทะ แล้วเดินลงมาปัสสาวะที่ใต้ถุนระเบียงจุดชมวิวริมตลิ่งแม่น้ำโขงตามลำพัง พบชายคนดังกล่าวน่าจะเสียหลักกลิ้งตกตลิ่งสูงชัน พบว่ายน้ำห่างจากจุดตกลอยคอมาได้ราว 50 เมตร สักพักก่อนจมหายใต้น้ำ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มางมร่างค้นหา

นางขัน วัย 55 ปี แม่นายธนวิทย์ ผู้ตายกล่าวว่า ลูกชายทำงานที่บาร์แห่งหนึ่งในตัวเมืองนครพนม หลังเลิกงานได้ชักชวนเพื่อนไปดูหมอลำ ในงานสมโภชพระธาตุแสงนคร วัดสว่างสุวรรณารามเลิกตี 4 ขากลับจึงมาส่งเพื่อนที่ร้านหมูกระทะ ก่อนนั่งเล่นและชาร์ตโทรศัพท์ทิ้งไว้ กระทั่งเพื่อนโทรมาแจ้งว่าลูกชายตกน้ำสูญหาย ตอนแรกก็ไม่เชื่อ หลังลูกชายจบชั้น ปวส.ก่อสร้าง มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนติดเกณฑ์ทหาร สังกัดทหารอากาศที่กองบิน จ.อุบลราชธานี ปกติว่ายน้ำเก่งและแข็งแรง ไม่น่าจะจมน้ำได้ มาดูการค้นหาทีแรกจุดธูป 1 ดอกไม่พบวี่แววร่างลูกชาย หลังจุดธูป 16 ดอกแต่งขันธ์ห้าบอกกล่าวเจ้าที่และพระแม่คงคา ภาวนาขอให้เจอ เจ้าหน้าที่ค้นหาใต้น้ำอีกรอบนาน 10 นาที กระทั่งพบเจอ





หลังแพทย์ รพ.นครพนม และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.นครพนม พบตามร่างกายซีดเซียว สันนิษฐานว่าขาดอากาศหายใจ ญาติไม่ติดใจสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป