
เมื่อเวลา 15.24 น.วันที่ 2 มีนาคม 2568 ขณะที่ ร.ต.อ.เด่นชัย ผลทิพย์ รอง สวป.สภ.ย่อยห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุชิงทรัพย์ รถสองแถวที่ถนนในหมู่บ้านนิคม 1 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ร.ต.อ.นิติพันธ์ สุภะดี รอง สว.สส.สภ.ห้วยหลวง










เมื่อไปถึงที่บ้านผู้ใหญ่บ้านนิคม 1 พบนางอุดมพร นามอุตวงษ์ อายุ 49 ปี ชาวบ้านโคกก่อง ม.4 ต.หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เจ้าของรถสองแถว ยี่ห้ออีซูซุ TFR สีแดง ทะเบียน 10-5571 อุดรธานี รถสายอุดรธานี – หนองวัวซอ หมายเลขข้างรถ 4305-55 พร้อมด้วยด้วย ด้วย ด.ญ.ขวัญลดา โคตรชุม หรือ เนส อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ น.ส.สุพิชชา ชีกว้าง หรือไอซ์ อายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ระดับ ปวช.2 วิทยาลัยบริหารธุรกิจ นายสมจิต เพียปลัด อายุ 63 ปี ทั้งหมดเป็นผู้โดยสารมากับรถสองแถว และเป็นชาวอำเภอหนองวัวซอ จ.อุดรธานีที่กำลังรอพบให้ปากคำเจ้าหน้าที่อยู่
นางอุดมพร คนขับรถสองแถวให้การว่า ตนขับรถสองแถวสายอุดรธานี – หนองวัวซอ มาประมาณหลายสิบปี ก่อนเกิดเหตุ ได้รับผู้โดยสารจากคิวรถตลาดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมีผู้โดยสาร 3 คน ซึ่งเป็นผู้โดยสารประจำ ขับมาถึงหน้าโรงแรมนภาลัย ถนนประชารักษา เขตเทศบาลนครอุดรธานีได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนขายาว รองเท้าผ้าใบ สะพายย่ามลาย สก็อต ใส่แมสก์ รูปร่างผอมสูง ประมาณ 170 ซม.ผมหยิก โบกรถตนจึงจอดให้ขึ้น โดยยืนโหนอยู่ท้ายรถ ซึ่งติดกับน้องเนสนั่งอยู่ท้ายรถเบาะหลังคนขับ ก็เหมือนผู้โดยปกติ
นางอุดมพร กล่าวต่อไปว่า จนกระทั่งตนขับมาถึงบ้านปากดง ต.นิคมสงเคราะห์ ได้ยินเสียงผู้โดยที่อยู่ด้านหลังเสียงดังเอะอะโวยวาย ก็นึกว่าเป็นแฟนแล้วทะเลาะ จึงได้จอดรถ คนร้ายได้เดินลงมาจากรถ พร้อมกับลากเด็กผู้หญิงลงมา มีกุญแจใส่มือข้างซ้าย ส่วนคนร้ายใส่มือข้างขวา พร้อมกับเปิดประตูรถ ดันเด็กหญิงเข้าไปนั่งตรงกลาง จากนั้นก็ใช้ไขควงจี้ตนให้ขับรถออกไป ตนทำใจดีสู้เสือถามว่าจะให้ไปส่งที่ไหน คนร้ายถามว่าแถวนี้มีรีสอร์ทหรือไม่ จะไปรีสอร์ท ตนจึงบอกว่าอีกนิดเดียวก็จะถึงโรงพักห้วยหลวงแล้ว ให้คนร้ายลงไป แล้วหนีไปเลย แต่คนร้ายบอกว่ามีรถขับติดตามมา ให้ขับรถต่อไป
จนกระทั่งถึง 4 แยกเขื่อนห้วยหลวง คนร้ายได้บอกให้ตนเลี้ยวเข้าไปในเขื่อน พอเจอทางแยกก็บอกให้เลี้ยวซ้ายไปบ้านนิคม 1 คนร้ายได้ดุตนว่าขับรถช้า จะขับเอง พอถึงที่ลับตาซึ่งเป็นทุ่งนา คนร้ายได้ให้ตนจอดรถ แล้วกระโดดข้ามเด็กหญิงมานั่งขับแทนตน ส่วนตนไปขึ้นมานั่งด้านหลัง เห็นคนร้ายได้เอาลูกกุญแจมาไขกุญแจมือ เพราะขับไม่ถนัด ขับออกจากหมู่บ้านไปประมาณ 1 กม.คนร้ายบอกขอเปลี่ยนตัวประกัน จะเอาน้องไอซ์ อายุ 17 ปี ไปแทนน้องเนส เพราะน้องเนสมีอาการกลัวจนตัวสั่น
แต่น้องไอซ์ได้พูดต่อรองกับคนร้ายว่า ไม่ไปด้วยแต่ให้เงินคนร้าย 1000 บาท ไปแทน คนร้ายได้ขู่เอาเงินจากน้องเนสไปอีก 60 บาท จากนั้นก็คนร้ายก็ไล่พวกตนลงจากรถ แล้วขับหลบหนีไป ซึ่งในรถมีเงินสดของตนประมาณ 1 พันบาทเศษกับเอกสารทางราชการ คนร้ายได้เงินไปรวมประมาณ 2,000 กว่าบาท พวกตนทั้ง 4 คน ได้เดินกลับเข้ามาในหมู่บ้าน พร้อมกับโทรบอกสามีแล้วโทรแจ้งตำรวจ ขณะเกิดเหตุตนไม่กล้าโทรแจ้งตำรวจขณะอยู่บนรถเกรงว่าคนร้ายจะทำร้ายน้องเนส และทุกคนไม่กล้าวิ่งหนีเป็นห่วงน้องเนสจะโดนทำร้าย
น้องเนส กล่าวว่าว่า วันนี้ตนมาเรียนพิเศษที่ในเมืองอุดรธานี เสร็จแล้วก็นั่งรถโดยสารกลับบ้านตามปกติ ตอนที่รถจอดรับคนร้ายก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเป็นผู้โดยทั่วไป จนกระทั่งมาถึงบ้านปากดง คนร้ายมีท่าทางแปลก กดออดเหมือนจะลงจากรถ แต่ออดไม่ดัง จากนั้นคนร้ายได้ล้วงเอาไขควงในย่ามออกมาจี้ตน ตนเกรงว่าจะถูกทำร้าย จึงนั่งนิ่งๆ คนร้ายได้หยิบเอากุญแจมือมาล็อคข้อมือซ้ายของตน และล็อคข้อมือของคนร้าย แล้วก็มานั่งประกบ ตนกลัวก็นั่งนิ่งๆ จนกระทั่งคนร้ายปลดกุญแจออก เพื่อจะแลกตัวประกัน แต่ก็ได้เสนอเงินให้คนร้ายแทน
ส่วนน้องไอซ์ กล่าวว่า วันนี้มาจัดฟันที่คลินิกหมอฟันตามที่หมอนัด เสร็จแล้วนั่งรถสองแถวกลับบ้าน ตอนเห็นน้องโดนคนร้ายเอาไขควงจี้ก็ตกใจ ได้แต่นั่งนิ่งดูเหตุการณ์ ตนและคุณตาสมจิต รู้สึกเป็นห่วงน้อง จึงไม่ได้หลบหนี พอคนร้ายบอกจะเปลี่ยนตัวประกัน จากน้องเนส มาเป็นตนแทน ตนก็ไม่ยอมจึงได้เสนอเงิน 1000 บาทให้คนร้ายแทน ซึ่งคนร้ายก็ยินยอม จากนั้นคนร้ายก็ได้ขับรถสองแถวหนีไป
ขณะที่นายสมจิต กล่าวว่า ตนมาฟอกไต ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ปกติจะมาสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยนั่งรถสองแถวโดยสารเป็นประจำ พอเห็นคนร้ายจี้เด็ก ก็รู้สึกเป็นห่วงจึงไม่หนี พยายามพูดจาต่อรอง แต่คนร้ายบอกว่าไม่ให้ตนขยับเพราะว่ามีอาวุธปืนอยู่ในย่าม กระทั่งคนร้ายจอดรถลงมา ขอเปลี่ยนตัวประกัน แต่เด็กๆมีไหวพริบดี เสนอให้เป็นเงินแทน ซึ่งคนร้ายก็เอาเงินแทนตัวประกัน แล้วขับรถหลบหนีไป
ต่อมา พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรานี ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่รถสองแถวขับผ่าน บริเวณสี่แยกคอกม้า ถนนประชารักษา เขตเทศบาลนครอุดรธานี และสี่แยกสนามบิน ถนนเลี่ยงเมือง อุดรธานี – หนองบัวลำภู พบว่าคนร้ายยืนโหนอยู่หลังรถสองแถว จึงนำชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ จนกระทั่งเวลา 190.30 น. พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ รอง ผกก.สภ.ย่อยห้วยหลวง ได้นำชุดสืบสวนออกติดตามคนร้ายไปตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี และพบรถสองแถวที่โดนคนร้ายชิงมา จอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะท้ายบ้านหนองอ้อ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งตำรวจจะได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป