
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 1 มีนาคม 2568 ที่วัดนาคาเทวีและตลาดผ้าบ้านนาข่า นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานีได้ไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานออนซอน วิถีอีสาน สืบสานผ้าหมี่ขิดบ้านนาข่า เปิดมูลมังสังขยาตามหาผ้านาข่า “NICE NIGHT NAKHA LEGACY” ประจำปี 2568 จัดขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่างชาวตำบลนาข่า ผู้ประกอบการตลาดผ้าบ้านนาข่า ร่วมกับเทศบาล ตำบลนาข่า มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี และวัฒนธรรม จังหวัดอุดรธานี ขึ้นในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม รวม 3 วัน วัตถุประสงค์เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญต่อการสืบสานและเผยแพร่เอกลักษณ์อันล้ำค่าของ “ผ้านาข่าอุดรธานี”อันเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและภูมิปัญญาที่ชาวอุดรธานีถ่ายทอดและพัฒนามาตั้งแต่โบราณ โดยมีพ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาข่านำหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก






นายราชันย์ ฯ กล่าวว่า จากที่ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาข่า ได้รายงานว่าเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า “ตลาดผ้าบ้านนาข่า” เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าพื้นเมืองที่สำคัญของจังหวัดอุดรธานี ประชาชนในท้องถิ่นได้ทอผ้าพื้นเมืองกันมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าหมักโคลน ผ้าหมี่ขิด ผ้ามัดหมี่ ซึ่งดั้งเดิมได้ทอผ้าไว้ใช้เองในวิถีชีวิต ทั้งผ้าสีย้อมครามย้อมนิลสำหรับทำนาทำไร่และผ้าที่มีลวดลายสีสันสำหรับสวมใส่ในงานบุญประเพณี ต่อมาผู้ที่มาพบเห็นได้มาซื้อขายผ้านาข่านำไปตัดเย็บสวมใส่จนเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายชาวนาข่าจึงได้ทอผ้าเพื่อนำมาจำหน่าย มีการรวมกลุ่มทอและจำหน่าย จนพัฒนามาสู่การเป็น “ตลาดผ้าบ้านนาข่า” ที่เป็นศูนย์กลางของการผลิตและจำหน่ายผ้าพื้นเมืองของอุดรธานี ซึ่งผ้าที่เป็นที่นิยมไปทั่วทั้งจังหวัดและทั่วประเทศคือ ผ้ามัดหมี่และผ้าหมี่ขิด จนเป็นที่มาของคำขวัญจังหวัด “ธานีผ้าหมี่ขิด”
ปัจจุบัน “ตลาดผ้านาข่า” เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้ร้านค้าจึงได้มีการนำผ้าจากแหล่งผลิตอื่นๆมาวางจำหน่ายรวมกับผ้าหมี่ขิดดั้งเดิม ซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายทั้งผ้าทอมือและผลิตจากโรงงาน จนเกิดความสับสน เกรงว่าผ้าหมี่ขิดดั้งเดิมจะสูญหายไปจึงเป็นที่มาของการจัดงาน “เปิดมูลมังสังขยา ตามหาผ้านาข่า ”NICE NIGHT NAKHA LEGACY“ ในวันนี้ จึงมีการนำผ้าเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยปีมาเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ผ้านาข่า ให้คงความเป็นอัตลักษณ์คงคุณค่า ของผ้าพื้นถิ่น เป็นส่วนหนึ่งของผ้าไทย สืบสานพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สำหรับการจัดงานในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแสดงศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริม ให้ช่างทอผ้าและผู้ประกอบการผ้าไทยได้ผลิตชิ้นงานที่ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ของไทยที่สืบสารมาจากบรรพบุรุษ ผสมผสานผสานกับหลักวิชาการแฟชั่นสมัยใหม่ ออกแบบชุดพื้นเมืองให้มีความสวยงามหลากหลาย หลากสไตล์ ตามความต้องการของคนทุกช่วงวัย นำไปสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก เกิดแรงขับเคลื่อนในชุมชน ทำให้ประชาชนในชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเพิ่มโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง และสินค้า OTOP เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล
นอกจากนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดการซื้อขายของตลาดผ้านาข่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในปลายปี 2569 จะมีการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการมีส่วนร่วมในทุกด้าน ในการจัดงานครั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี และวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี ได้เข้ามาสนับสนุนในการทำ ”STREET ART“ ให้ความรู้การอนุรักษ์ผ้าทอมือ ฝึกสอนการทำผลิตภัณฑ์จากผ้า การแสดงศิลปวัฒนธรรมและได้ลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) ที่จะร่วมมือ ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อพัฒนาผ้านาข่าให้เป็นอีกหนึ่ง “SOFT POWER” ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานอุดรธานีที่เข้ามาสนับสนุนด้านประชาสัมพันธ์ และด้านอื่นในโอกาสต่อไป