
ที่หอประชุมจามจุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นางชุติมา รู้ยิ่ง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในการนำทุกภาคส่วน ประกอบด้วยข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ สถาบันการศึกษา เหล่ากาชาด แม่บ้านมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรอิสระ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสกลนคร ร่วมพิธีน้อมรำลึก ถวายราชสักการะ และวางพานพุ่มดอกไม้ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2568








ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2513 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างแห่งชาติ ณ ลุมพินีสถาน โดยพระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับการช่างของไทย ความตอนหนึ่งว่า ช่างทุกประเภทเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมืองและของทุกคน เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัยและใช้บริการหรือสิ่งต่าง ๆ ที่มาจากฝีมือของช่างอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผู้เป็นช่าง จึงสม ควรได้รับความเอาใจใส่สนับสนุนจากทุก ๆ ฝ่าย ยิ่งในสมัยปัจจุบัน วิทยาการทุกอย่างเจริญก้าวหน้า ยิ่งจำเป็นต้องส่งเสริมมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ช่างที่มีความสามารถสูง ให้มีสิ่งใช้สอยที่มีคุณภาพดีและเพียงพอกับความต้องการ ในการส่งเสริมนั้น มีปัญหาอันควรจะได้พิจารณาช่วยเหลืออยู่สามประการ
ประการแรก ได้แก่ปัญหาเรื่องการให้ความรู้ทางหลักวิทยาการ และความรู้ทางการออกแบบ ประการที่สอง ได้แก่ ปัญหาเรื่องฝีมือ ซึ่งจะต้องปรับปรุงให้มีความประณีต และประสิทธิภาพได้มาตรฐานจริง ๆ ประการที่สาม ได้แก่ปัญหาเรื่องการจัดหางานและหาตลาด เพื่อช่วยให้ช่างได้มีงานทำ มีตลาดที่จะส่งสินค้าที่ผลิตได้ ไปจำหน่าย การช่วยเหลือทั้งสามประการนี้ จะต้องกระทำให้สอดคล้องกันไป เพื่อให้ช่างมีรายได้และผลกำไร สำหรับนำมาเป็นทุนรอนสร้างฐานะและความก้าวหน้า และเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติถวายพระราชสมัญญาแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็น “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” พร้อมกำหนดให้วันที่ 2 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ