
ขอไปปรึกษาด้านกฎหมาย ขณะที่ความเสียหายพายุพัดถล่มฃพื้นที่ขอนแก่น เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจและซ่อมแซม อุปกรณ์เสาไฟฟ้าที่ชำรุดเสียหาย

วันที่ 4 มีนาคม 2568 นี่คือภาพความเสียหาย ของบ้านเลขที่ 446 หมู่ 12 ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ติดกับอาคารหอพัก 3 ชั้น ถูกต้นกุงขนาดใหญ่สูงเกือบ 20 เมตร ซึ่งอยู่ในที่ดินข้างเคียง ล้มลงมาทับบ้านบริเวณกลางหลังคาบ้าน ลำต้นหักทะลุลงไปถึงชั้นล่าง ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องมือวัดและอุปกรณ์โทรคมนาคม โดยแต่ละชิ้นมีมูลค่าสูงถึง 1-2 ล้านบาท ส่วนปลายต้นไม้ พาดเข้ากับหลังคาหอพัก จนฟ้าเพดานทะลุ ขณะที่กลางบ้านด้านล่าง กิ่งไม้ได้หักทะลุกระจกรถตู้หมายเลขที่ทะเบียน นข 864 ขอนแก่นเสียหายเกือบทั้งคัน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 3 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่น
นางบัวเรียน ขรรค์แก้ว อายุ 63 เจ้าของบ้าน เล่าทั้งน้ำตาว่า ขณะเกิดเหตุเธออยู่กับหลานเพียงลำพัง เนื่องจากลูกชายและลูกสาวออกไปทำงานกันหมดแล้ว ขณะที่ลมเริ่มพัดแรง ตนเองพยายามเก็บของข้างบ้านเข้ามาไว้ในห้อง แต่เมื่อพายุโหมกระหน่ำ จนไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้ เพราะแรงลมรุนแรงมาก จนกระทั่งลมรอบที่สามพัดเข้ามา ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก่อนจะเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มลงมาทับบ้านของตน โดย ก่อนหน้านี้เคยร้องขอให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงตัดต้นไม้ต้นนี้ เพราะกังวลว่าหากเกิดอุบัติเหตุจะไม่มีใครรับผิดชอบ
โดยมีการร้องเรียนผ่านผู้ใหญ่บ้านหลายครั้ง แต่เจ้าของต้นไม้ไม่ยอมตัด และเคยตอบกลับว่า “บ้านคุณราคากี่ล้าน ฉันมีปัญญาจ่าย” แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นจริง เจ้าของที่กลับระบุว่าต้องปรึกษาทีมกฎหมายก่อน ทำให้ตนรู้สึกน้อยใจและเสียใจอย่างมาก ตนเองแค่ต้องการให้เจ้าของต้นไม้รับผิดชอบความเสียหาย ซ่อมบ้านให้กลับมาอยู่ได้เหมือนเดิม รวมถึงซ่อมหอพักที่เสียหายให้ใช้งานได้ตามปกติ ไม่ใช่พอเกิดเรื่องแล้วจะไม่รับผิดชอบ อยากฝากเตือนผู้ที่มีต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ชุมชนให้พิจารณาตัดต้นไม้ที่อาจเป็นอันตรายก่อนที่จะเกิดเหตุซ้ำรอย เพราะเมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้ว ความเสียหายที่ตามมาอาจประเมินค่าไม่ได้.