
วันที่ 14 มีนาคม 68 ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ประชุมหารือความร่วมมือการกำจัดวัชพืช (จอกหูหนูยักษ์) ในพื้นที่บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยมี นายทวี ชิณรงค์ นายอำเภอบึงโขงหลง นายวิทยา ภารจรัส นายกเทศมนตรีตำบลบึงโขงหลง พร้อมด้วย นายนพดล บัวโรย ผู้แทนเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง นายสุวิเชียร ผ่องนัยเลิศ บริษัท จินเจียง กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนชุมชน และ บริษัทเอกชน ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 เทศบาลตำบลบึงโขงหลง ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬซึ่งที่ประชุมได้พูดคุยถึงแนวทางการวางแผนและข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นหน่วยงานในท้องที่จะประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในระเบียบราชการ รวมถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ โดยย้ำว่าจะให้ความร่วมมือเป็นตัวเชื่อมประสานการดำเนินงาน เพราะจอกหูหนูยักษ์เป็นวิกฤติที่สร้างปัญหาและผลกระทบให้กับทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและการประมง





ด้าน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง เปิดเผยว่า ทางเขตฯ พร้อมสนับสนุนความร่วมมือในการจัดการกับจอกหูหนูยักษ์ ซึ่งขณะนี้กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ทำให้สัตว์น้ำลดจำนวนลงเนื่องจากขาดอากาศหายใจ โดยเมื่อวานนี้ (13 มีนาคม 68) ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมกับหน่วยงานเพื่อพูดคุยถึงเรื่องงบประมาณที่อาจจะนำมาช่วยสนับสนุนดำเนินงานในครั้งนี้ได้
นายสุวิเชียร ผ่องนัยเลิศ บริษัท จินเจียง กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากหน่วยงานในพื้นที่ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกัน ระหว่าง มหาวิทยาลัยนครพนม ในการสนับสนุนองค์ความรู้ทางวิชาการ, บริษัท จินเจียง กรุ๊ป จำกัด, อำเภอบึงโขงหลง, เทศบาลตำบลบึงโขงหลง และ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง จากนั้นจะเดินหน้าวางแผนนำเครื่องจักรทำการตักจอกหูหนูขึ้นจากน้ำ เพื่อส่งไปยังโรงงานเข้าสู่กระบวนการแปรรูปผลิตถ่านชีวภาพ (Biochar) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการนำไปทดลองผลิตแล้ว
โดยกรอบความร่วมมือการดำเนินงาน มีระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ลงนามบันทึกความเข้าใจ
ทั้งนี้ ในส่วนของการที่ได้รับผลกระทบหลักๆ ก็จะมีที่หาดคำสมบูรณ์ ยิ่งช่วงนี้ ใกล้เข้าเทศกาล สงกรานต์แล้ว อาจจะส่งผลกระทบ ในการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวอาจลดลง ในส่วนของ นางราตรี แสงคำ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 122 หมู่ 3 บ้านคำสมบูรณ์ ตำบลบึงโขงหลงอำเภอบึงโขงหลงจังหวัดบึงกาฬ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ตนเอง เป็นคนในพื้นที่ ตั้งแต่เปิดร้านที่หาดคำสมบูรณ์มา เกือบ 20 ปี ไม่เคยมีจอกหูหนูยักษ์แพร่ระบาด เยอะเท่านี้มาก่อน ในแต่ละเช้า
ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ที่ตั้งอยู่หาดคำสมบูรณ์ ต้องออกมาเก็บกวาดเอาเจาะหูหนูยักษ์ ขึ้นมาแต่ละแนวเขต ของร้านตัวเองหวังว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ก็ขออย่าให้มีลมพายุฝน เพื่อจะไม่ให้พระเจ้าของหนูยักษ์เข้ามา เป็นชายหาด เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้มาเที่ยวหาดคำสมบูรณ์ อย่างมีความสุขในทุกครั้งที่มา.