ผศ.นพ.ธรา ธรมโรจน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข.เปิดเผยว่า ในปีนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นสร้างผลงานอันโดดเด่น โดยติดอันดับโลก 18 จาก 19 สาขาหลัก ซึ่งได้รับการจัดอันดับเพิ่มเติมในสาขาย่อยกว่า 30 สาขา โดยที่ผลการจัดอันดับในระดับประเทศ คืออันดับ 1 ของไทยในสาขาหลัก Mathematics หรือ คณิตศาสตร์ และในสาขาย่อย Civil and Structural Engineering หรือวิศวกรรมโยธาและโครงสร้าง ขณะที่ อันดับ 2 ของไทย ได้แก่ สาขา Engineering หรือวิศวกรรม และ อันดับ 3 คือ Chemistry หรือเคมี และ อันดับ 4-5 ของไทยอีกกว่า 10 สาขาวิชาหลัก โดย SCImago (SIR) ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงประจักษ์จากฐานข้อมูล และการสืบค้นต่างๆ มีเกณฑ์การให้คะแนนที่ชัดเจน คือ งานวิจัย (Research) 50% นวัตกรรม (Innovation) 30% และการสร้างประโยชน์เพื่อสังคม (Societal Distribution) 20%
“ ข้อมูลดังกล่าวเราได้นับการยืนยันจาก SCImago Institutions Rankings (SIR) ซึ่งได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วโลก ประจำปี 2025 ผ่านเว็บไซต์ https://www.scimagoir.com/ ซึ่งปีนี้ มข.ของเรา ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น สามารถติดอันดับโลกถึง 18 สาขา จาก 19 สาขา โดยครองอันดับ 1 ของประเทศไทยในสาขาหลักคณิตศาสตร์ และสาขาย่อยวิศวกรรมโยธาและโครงสร้าง สะท้อนศักยภาพด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยภูมิภาคที่พัฒนาก้าวไกลสู่ระดับนานาชาติ และเป็นความสำเร็จของ มข.บนเวทีระดับโลก อีกด้วย ทั้งนี้ มข.เตรียมวางแผนนำข้อมูลนี้ไปประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์มาตรฐานเปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmark) โดยเฉพาะในสาขาวิชาย่อยต่าง ๆ พัฒนายุทธศาสตร์ การวิจัยโดยกำหนดทิศทางโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพงานวิจัย การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ทั้งด้านการวิจัย การเรียนการสอน และการบริการวิชาการ การยกระดับมาตรฐานเพื่อให้สอดคล้องกับ เกณฑ์การจัดอันดับของสถาบันต่างๆ ในอนาคต สอดคล้องกับกลยุทธ์การพัฒนาสู่ความเป็นเลิศระดับสากลของมหาวิทยาลัย ที่ได้วางแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจน”
ผศ.นพ.ธรา กล่าวต่ออีกว่า มข.ได้กำหนดแผนงาน. การขยายหลักสูตรนานาชาติ โดยเพิ่มหลักสูตรนานาชาติให้ครอบคลุมหลากหลายสาขา เปิดช่องทางการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการผู้เรียนนานาชาติ การส่งเสริมประสบการณ์ระดับโลกแก่นักศึกษา จัดสรรทุนการศึกษาต่างประเทศจำนวนมาก มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นผู้นำด้านการสนับสนุนทุนต่างประเทศ อีกทั้งความเป็นเลิศด้านสหกิจศึกษา มข.ได้รับการยอมรับว่าส่งนักศึกษาไปสร้างเสริมประสบการณ์ที่ต่างประเทศมากที่สุดในประเทศไทย โดยนักศึกษาต้องมีโครงงานที่ชัดเจนก่อนการฝึกสหกิจศึกษา รวมถึงระบบติดตามและประเมินผล มีฝ่ายพัฒนานักศึกษาทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้าและประเมินผลอย่างเป็นระบบ การยกระดับงานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัย มีนโยบายเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพื่อมุ่งสู่งานวิจัยคุณภาพสูง สนับสนุนการตีพิมพ์ในวารสารคุณภาพสูง และให้ทุนเฉพาะผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Q1 และ Q2 มุ่งเน้นผลงานที่มี Impact สูง ให้การสนับสนุนงานวิจัยที่มีผลกระทบชัดเจน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ
“ เราต้องพัฒนาต่อไป ทั้งด้านเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้วยข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ห่างจากส่วนกลาง มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น ในการสร้างเครือข่ายนานาชาติ พร้อมทั้งการเพิ่มความสำคัญและให้น้ำหนักกับการสร้างเครือข่ายมากกว่าที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลงานที่มีผลกระทบสูง อย่างไรก็ดี เพื่อยกระดับคุณภาพงานวิจัย ทั้งการจัดสรรงบประมาณวิจัยในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในประเทศไทย การสนับสนุนการทำวิจัยภายนอกโดยจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานภายนอก การสร้างเครือข่ายวิจัย โดยสนับสนุนการศึกษาดูงานต่างประเทศทั้งสำหรับบุคลากรและนักศึกษา รวมถึงนโยบายแลกเปลี่ยนนักศึกษานานาชาติ ทั้งการส่งนักศึกษาไปศึกษาต่างประเทศและการรับนักศึกษาต่างชาติ ด้วยการยกระดับความร่วมมือสู่ความเป็นรูปธรรม เพื่อให้ความร่วมมือเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงเพื่อยกระดับคุณภาพงานวิจัย นวัตกรรม และการเรียนการสอน สู่มาตรฐานระดับโลก สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือ ในระยะยาวต่อไป
