
วันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม ประจำจุดผ่านแดนถาวรท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเทศบาลเมืองนครพนม ถ.สุนทรวิจิตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งทำหน้าที่ตรวจคนไทยขาออก พบว่า นางสาวเอม(นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ใช้เอกสารบัตรผ่านแดนชั่วคราว ในการยื่นแสดงตัวเพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปยัง สปป.ลาวเป็นบุคคล ตามหมายจับศาลแขวงขอนแก่น ที่ จ.44/2567 ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567

จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่สืบสวน ทำการตรวจสอบ ทราบว่าทางผู้ออกหมายจับยังต้องการตัว พฤติการณ์เบื้องต้น ทางผู้เสียหายได้ให้คนรู้จักยืมรถจักรยานยนต์ แต่ผู้ยืมอ้าง ว่านำรถไปจำนำกับเพื่อนซึ่งเป็นสามีของผู้ต้องหา และได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายโอนเงินไถ่ถอนรถก่อนจึงจะได้รถจักรยานยนต์คืน ซึ่งผู้เสียหายได้โอนไปยังบัญชีของผู้ต้องหาแล้ว แต่ไม่ได้รถคืนตามที่ตกลงไว้ จึงเป็นเหตุให้ให้ไปแจ้งความดำเนินคดี กับคนที่ยืมรถไปและเจ้าของบัญชี(ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม)
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหา ข้อหา “ฉ้อโกง” นำส่งต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





ด้านนางสาวเอม ผู้ต้องหาอ้างว่ามันเป็นเรื่องของผัวเมียทะเลาะกัน โดยแกล้งเอารถมอเตอร์ไซต์ไปจำนำโดยแฟนตัวเองต้องการช่วยเหลือเพื่อนโดยแกล้งเป็นคนรับจำนำรถคันนั้น แล้วสามีไปบอกเมียว่าให้เอาเงินไปปิดยอดประมาณ 2 หมื่น 3 ถึง 2 หมื่น 4 พันบาทจะได้รถคืนมา แต่ตอนนี้รถก็ไม่ได้อยู่ที่ตน เงินก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ตนอยู่ชลบุรีไม่รู้ว่ามีหมายจับ วันนี้จึงเดินทางมาจากชลบุรีพร้อมสามีกับลูกน้อย 2 คนจะข้ามไปฝั่งคำม่วนเพื่อรับกระดูกพ่อของสามีที่เสียชีวิตที่ แขวงคำม่วน ญาติทำการเผาเมื่อวาน (วันที่ 18 มี ค.) แต่ช่วงยื่นเอกสารเพื่อข้ามแดนระหว่างพิมพ์ลายมืออยู่นั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมาทำการจับกุมตามที่ได้แถลงข่าว ตนยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด หลังจากเจ้าหน้าที่ ตม.นำตัวไปที่ สภ.ขอนแก่น จะนัดเจรจากับผู้เสียหายที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน นางสาวเอมกล่าวกับผู้สื่อข่าว