
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 มีนาคม 2568 ศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งจากนายกังวาฬ ธัญธนาพล(ลูกศิษย์วัด) อายุ 48 ปี มีบ้านพักเลขที่ 75 หมู่ 17 อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่ามีผู้ป่วยจิตเวชขาดยาเดินทั่วบริเวณวัดและตะโกนบอกขู่ว่าจะเผารถยนต์ที่มาจอดภายในวัดให้หมด ที่บริเวณภายบริเวณวัดบูรพาราม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจเคลื่อนที่เร็ว รีบรุดเข้าตรวจสอบ







ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เข้ามาจอดภายในวัดวัดบูรพารามจำนวนกว่า 10 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็สอบถามนายกังวาฬ ธัญธนาพล(ลูกศิษย์วัด) ว่าผู้ป่วยจิตเวชนั้นได้เข้าไปหลบอยู่ภายในห้องพักชั้นล่างที่อาคาร 2 ชั้น ทราบชื่อต่อมาชื่อนายสุดเขต ศรีระอัมพุช ลูกศิษย์วัด (ผู้ป่วยจิตเวช) อายุ 55 ปี มีบ้านพักอาศัย 301/756 ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้เปิดประตูกว่า 30 นาทีถึงได้เปิดออกมา พร้อมกับได้เจรจาและสอบถามว่าป่วยจิตเวชไหม ซึ่งนายสุดเขต ศรีระอัมพุช ลูกศิษย์วัด (ผู้ป่วยจิตเวช) ได้ยอมรับว่ามีประวัติอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ว่าป่วยจริง และไม่ได้กินยามา 2-3 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ไปโรงพยาบาล นายสุดเขต ศรีระอัมพุช ลูกศิษย์วัด (ผู้ป่วยจิตเวช) ก็ยอมไปแต่ขอปั่นจักรยานสองล้อไปเอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอม โดยนายสุดเขต ศรีระอัมพุช ลูกศิษย์วัด (ผู้ป่วยจิตเวช) นั้นก็เดินไปมาและเดินไปรดน้ำต้นไม้ตามจุดต่างๆ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยเดินตามตลอด จนรถโรงพยาบาลมานำขึ้นรถส่งโรงพยาบาลสุรินทร์เพื่อรักษาอาการป่วย
ทางด้าน นายกังวาฬ ธัญธนาพล(ลูกศิษย์วัด) เล่าว่า ตนและนายสุดเขต ศรีระอัมพุช ลูกศิษย์วัด (ผู้ป่วยจิตเวช)เป็นลูกศิษย์วัดมีหน้าที่ขับรถรับส่งพระสงฆ์ ซึ่งวันนี้นายสุดเขต ศรีระอัมพุช ลูกศิษย์วัด (ผู้ป่วยจิตเวช)นั้นได้เดินออกมาแล้วก็ตะโกนขู่ว่าจะเผารถยนต์ตนและคันอื่นของผู้คนที่นำรถยนต์มาจอดภายในวัด โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นครั้งที่สองแล้ว ซึ่งครั้งแรกตนก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 กับ ร.ต.ท.กุลวัฒน์ ภิรมย์ไกรภักดิ์ รอง สว.สภ.เมืองสุรินทร์ว่า นายสุดเขต ศรีระอัมพุช ลูกศิษย์วัด (ผู้ป่วยจิตเวช) ได้เดินวนเวียนทั่วบริเวณวัดและบ้านเรือนใกล้เคียงแล้วได้พูดจาก่อกวน อาละวาดอยู่ภายในวัดมาก่อกวนตน พร้อมกับพูดจาข่มขู่ตนว่าจะเผารถภายในวัด โดยทำให้ตนเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งวันนี้ได้เกิดอาการอีกตนจึงโทรศัพท์เรียกตำรวจให้มานำตัวไปรักษาดังกล่าว