
วันที่ 30 มีนาคม 2568 นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางธนวัน อุ่นเพชรวรากร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายเดช บำรุงหงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม นางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม หัวหน้าส่วนราชการอำเภอศรีสงคราม ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของ นายเอกชัย อินทรักษ์ อายุ 21 ปี แรงงานที่ไปทำงานยัง ตึกสตง.ที่เกิดเหตุพังถล่มลงมาเป็นเหตุทำให้แรงงานจำนวนหลายคน ยังคงติดอยู่ภายในซากอาคารดังกล่าว









นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะ ได้พบให้กำลังใจต่อ นายนาวา อินทรักษ์ อายุ 58 ปี นางสุนีย์ อินทรักษ์ อายุ 59 ปี พ่อและแม่ของ นายเอกชัย อินทรักษ์ ยังบ้านเลขที่ 45 ม.16 บ้านดงน้อย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมทั้งมอบสิ่งของจำเป็นเพื่อเป็นกำลังใจ
นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม กล่าวว่า จากรายงาน นครพนมพบว่า. มีผู้สูญหายและบาดเจ็บจากตึกถล่ม เป็นผู้สูญหายรวมจำนวน 4 ราย เป็นแรงงานจากพื้นที่อำเภอเมือง 2 ราย และชาวอำเภอศรีสงครามอีก 2 ราย นอกจากนี้ได้ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย
อย่างไรก็ตาม นายปราชญา ผวจ.นครพนม ได้กล่าวย้ำยังครอบครัวของนายเอกชัย 1ใน 4 ของผู้ที่สูญหายว่า ขณะนี้ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและบรรเทาภัย รวมถึงทหารช่าง ต่างกำลังเร่งกู้ซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้สูญหายแข่งกับห้วงเวลาภายใน 72 ชั่วโมงให้ได้โดยเร็วที่สุด
นางสุนีย์ อินทรักษ์ อายุ 59 ปี แม่ของนายเอกชัย ผู้สูญหาย เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ลูกชายอายุ 18 ปี เพิ่งเรียนจบชั้น ม.3 และคิดอยากทำงานเพื่อหารายได้เป็นของตัวเอง จึงพ่อและแม่ไปทำงานเป็นผู้ช่างช่างไฟฟ้า ยังอาคาร สตง. ที่กำลังก่อสร้างและพังถล่มลงมา ร่วมกับพี่ชายและพี่สะไภ้ที่ไปทำงานก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะที่เกิดเหตุ นายเอกชัยและลูกสะไภ้ได้เข้าไปทำงานภายอาคารหลังดังกล่าว แต่เคราะห์ยังดีที่ลูกชายคนโตหยุดงานจึงไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
นางไพมณี ขัดมณี อายุ 52 ปี ผู้รับเหมารายย่อยและหาแรงงานมาทำงานยังอาคารที่พังถล่มลงนี้ว่า ตนและสามีทำงานด้านงานก่อสร้างต่างๆ พร้อมเป็นธุระในการจัดหาแรงงานจากในพื้นที่ อ.ศรีสงครามและอำเภอใกล้เคียง ตามที่มีผู้รับเหมาต้องการมาหลายปี รวมถึงนายเอกชัย และอีกหลายๆคน แต่ครั้งนี้ก็ไม่คาดคิดว่า จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงถึงเพียงนี้และรู้สึกตกใจและเสียใจนี้ด้วยเช่นกัน
นางไพมณี ยังได้เล่าเพิ่มเติมว่า เวลานี้ตนเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน ทั้งเครื่องมือเครื่องจักรแทบทั้งหมดถูกอาคารพังถล่มทับจนเสียหายทั้งหมด ที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายแรงงานที่ตนเป็นผู้พามาทำงาน ก็สำรองเงินส่วนตัวออกไปก่อนเพื่อต้องการให้แรงงานทุกคนมีรายรับสำหรับนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือส่งให้กับครอบครัว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นทำให้ตนยังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป เวลานี้จึงทำได้เพียงจะนำแรงงานที่ปลอดภัยทั้งหมดกลับมาเพื่อรับขวัญผูกข้อมือรับขวัญก่อน