
วันที่ 10 เม.ย.68 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานในพิธีเป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 และศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 จังหวัดนครพนม พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมO











นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และงานประเพณีสงกรานต์ในหลายพื้นที่มีปัจจัยเสียงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าช่วงปกติ พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากจักรยานยนต์ สาเหตุขับรถเร็วและตัดหน้ากระชั้นชิดพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแอลกอฮอล์และไม่สวมหมวกนิรภัย
แนวทางการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 โดยกำหนดชื่อการรณรงค์ คือ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ.2568 ซึ่งเป็นการดำเนินมาตรการใน 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงก่อนควบคุมเข้ม 7 วัน ระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน ช่วงควบคุมเข้ม 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน ช่วงหลังควบคุมเข้ม 7 วัน ระหว่างวันที่ 18-24 เมษายน 2568 การเตรียมความพร้อมด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ.2568 จังหวัดนครพนม โดยดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการดำเนินงาน รวมทั้งการกำกับติดตามให้เป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงการจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานออกเยี่ยมจุดตรวจและติดตามการปฎิบัติงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ การจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2568 จังหวัดนครพนม การเตรียมความพร้อมของหน่วยงาน ส่วนราชการภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม ด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568
นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนบูรณาการทำงานในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นทั้งการบังคับใช้กฏหมาย การให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสภาพพื้นผิวถนน เส้นทางสัญจร สัญญาณไฟจราจร ป้ายแจ้งเตือนเป็นต้น เพื่อป้องกันและลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งต่อบุคคล ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ