
โรงเรียนหนองหอไตรราษฎร์บำรุง จ.กาฬสินธุ์ จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีระดมทุนซื้อรถรับส่งนักเรียน เพื่อแก้ปัญหาการเดินทางของนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลโดยเฉพาะในฤดูฝน ช่วยลดอัตราการขาดเรียนและส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาของเด็กในพื้นที่

ที่ หนองหอไตรราษฎร์บำรุง หมู่ที่ 8 ตำบลลำหนองแสน อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อระดมทุนในการจัดซื้อรถรับส่งนักเรียน โดยมีศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ภายในงานมีนายฐิติพงษ์ ข่วงสิมมา ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองหอไตรราษฎร์บำรุง เป็นประธานในพิธี และได้รับเกียรติจากพระปลัดอุทัย จารุธมโม เจ้าอาวาสวัดหนองหอไตร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

นายฐิติพงษ์ ข่วงสิมมา ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า โรงเรียนหนองหอไตรราษฎร์บำรุงเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่การเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนหลายคนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการศึกษา โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่การเดินทางลำบากมากขึ้น ทางโรงเรียนได้จัดรถรับ-ส่งนักเรียนมาหลายปีแล้ว แต่รถคันเดิมชำรุด ต้องซ่อมแซมบ่อย จึงมีแนวคิดจัดผ้าป่าเพื่อการศึกษาสมทบทุนจัดซื้อรถรับส่งนักเรียน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองและสนับสนุนให้เด็กๆ ได้มาเรียนอย่างสม่ำเสมอ

ด้านพระปลัดอุทัย จารุธมโม เจ้าอาวาสวัดหนองหอไตร ได้กล่าวให้โอวาทในงานว่า การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยพัฒนาชีวิตของเยาวชนในชุมชนให้มีอนาคตที่ดี วัดและโรงเรียนเปรียบเสมือนสองเสาหลักที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน การจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการทำบุญร่วมกันแล้ว ยังเป็นการสร้างความสามัคคีในชุมชน และที่สำคัญคือเป็นการช่วยเหลือเด็กๆ ให้มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น

นายอนุชิต ภูผิวผา ตัวแทนศิษย์เก่า กล่าวว่า พวกเรารู้สึกยินดีที่ได้กลับมาช่วยเหลือโรงเรียนที่เราเคยศึกษา โรงเรียนแห่งนี้ให้ทั้งความรู้และโอกาสกับพวกเรามาตลอด วันนี้เมื่อพวกเรามีโอกาสก็อยากจะตอบแทนบุญคุณ การมีรถรับส่งนักเรียนจะช่วยแก้ปัญหาการขาดเรียนของน้องๆ ได้มาก

ในส่วนของการระดมทุน ได้รับเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งในและนอกชุมชน ทางโรงเรียนมีแผนที่จะนำเงินดังกล่าวไปจัดซื้อรถยนต์ จำนวน 1 คัน เพื่อใช้รับส่งนักเรียนที่อยู่ห่างไกลและมีปัญหาในการเดินทาง
ทั้งนี้ ทางโรงเรียนมีแผนจะจัดซื้อรถและเริ่มให้บริการรับส่งนักเรียนได้ภายในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 โดยจะให้บริการในเส้นทางที่มีนักเรียนอาศัยอยู่ห่างไกลจากโรงเรียนเป็นอันดับแรก ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดอัตราการขาดเรียนและส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาของเด็กในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น