
ชาวบ้านเดือดร้อนรวมตัวกันร้อง กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ บริหารจัดการน้ำไม่โปร่งใส สร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ แต่เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่กลับไม่ได้รับประโยชน์ แต่เดินท่อส่งน้ำไปไกลกว่า 1,800 เมตร ไปให้หมู่บ้านอื่น หน้าแล้งทำให้น้ำไม่พอใช้ ชาวบ้านมองไม่โปร่งใส อยากให้ตรวจสอบ


วันที่ 22 เม.ย68 ที่วัดบูรพาหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม ชาวบ้านหนองบัว หมู่ 7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 จังหวัดขอนแก่น และตัวแทนจาก อบต.วังแสง ร่วมประชุมหาทางออก ภายหลังจากที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจพื้นที่ พร้อมสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อส่งเสริมการเกษตรของประชาชน เป็นการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน โดยได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นปี 68 แต่ปรากฏว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ชาวบ้านหนองบัวหมู่ 7 กลับไม่ได้รับประโยชน์ ไม่ได้มีการต่อท่อส่งน้ำเข้ามาในหมู่บ้าน หรือสถานที่สาธารณะ ทั้งวัด โรงเรียน และ รพ.สต. ในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านต้องประสบปัญหาเรื่องน้ำประปาหมู่บ้านทุกปี ที่น้ำแทบจะไม่พอใช้ แต่โครงการกลับต่อท่อส่งน้ำไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ ระยะทางกว่า 1,800 เมตร ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มองว่าการทำงานของ อบต.วังแสง ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ไม่โปร่งใส การทำประชาคม ไม่ชัดเจน
นายพงษ์พันธุ์ ชำนาญศรี ราษฏร ม. 7 บ้านหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านหนองบัว หมู่ 7 ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ของกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 67 ซึ่งที่หมู่บ้าน มีหนองน้ำสาธารณะ ขนาด 35 ไร่ ลึก 4 เมตร เป็นสระเก็บกักน้ำ ซึ่งแต่ละปีน้ำก็ไม่ค่อยเพียงพออยู่แล้ว แต่เมื่อทำโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำกลับถูกส่งไปยังพื้นที่อื่น โดยต่อท่อไปไกลกว่า 1,800 เมตร ชาวบ้านหนองบัว หมู่ 7 ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ กลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ มองว่าถูกนำทรัพยากรในหมู่บ้าน ไปใช้ที่อื่น ทำไมสร้างเสร็จแล้ว แต่คนในพื้นที่ไม่ได้ใช้ ยิ่งช่วงหน้าแล้ง น้ำประปาหมู่บ้านก็แทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว กลับถูกนำน้ำไปใช้พื้นที่อื่น และนำไปใช้เป็นน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งชาวบ้านมองว่าไม่เป็นธรรม และอยากให้ตรวจสอบในเรื่องของความโปร่งใสด้วยว่า มีความโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน ทำไมถึงต่อท่อส่งน้ำไปไกลขนาดนั้น โดยก่อนหน้าที่จะมีโครงการนี้ ในหมู่บ้านประสบปัญหาเรื่องน้ำประปาขาดแคลน ทางกรมทรัพยากรน้ำ ได้เข้ามาสำรวจ และมีหนังสือมาถึง อบต.หนองแสงว่า ให้เร่งเตรียมความพร้อมในการออกแบบของบประมาณในการสร้างน้ำประปาหมู่บ้าน แต่ที่เห็นอยู่ด้านหลัง คือเป็นการใช้น้ำที่สาธารณะเพื่อการเกษตร ไปปล่อยทิ้งลงไร่นา ชาวบ้านมองว่าไม่คุ้มค่า ไม่ได้เป็นประโยชน์ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้เคยพูดคุยกับตัวแทนกรมทรัพยากรน้ำหลายรอบแล้ว ซึ่งวันนี้ทางกรมทรัพยากรน้ำ ได้มีการเรียกให้ชาวบ้านเข้ามาประชุม เพื่อขอเสนอโครงการใหม่ ให้กับชาวบ้าน แต่ทางชาวบ้านก็ยังยืนยันว่าจะให้ระงับการใช้น้ำไปก่อน เพราะชาวบ้านมองว่าผิดระเบียบการใช้พื้นที่สาธารณะ ตอนแรกที่มาสำรวจบอกว่าเป็นประปาหมู่บ้าน แต่พอสร้างเสร็จแล้วกลับเป็นการใช้น้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งน้ำประปาทุกวันนี้ก็ไม่พอใช้อยู่แล้ว ไม่ได้แก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้ ซึ่งมี 4 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ บ้านหนองบัว หมู่ 7, บ้านโนนศรีบุญเรือง หมู่ 8, บ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 13, และบ้านโนนสวรรค์ หมู่ 15
นายชาญณรงค์ ทับสมบัติ ผญบ. หนองบัว หมู่ 7 กล่าวว่า ชาวบ้านมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้าง เป็นพื้นที่ของชาวบ้านหมู่ 7 สระน้ำสาธารณะก็เป็นของหมู่ 7 การประชาคมของ อบต.วังแสง ก่อนที่จะสร้างบอกว่าจะทำระบบน้ำมาที่ วัด โรงเรียน รพ.สต. แต่เมื่อทำเสร็จแล้ว วัด โรงเรียน รพ.สต. กลับไม่ได้สักที่ ชาวบ้านไม่ได้น้ำสักหยดเดียว ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 4 ที่จะหาทางออกร่วมกัน แต่ชาวบ้านก็ยังยืนยันว่าขอปิดหนองน้ำ ให้งดใช้น้ำ ซึ่งหนองน้ำแห่งนี้ วัดจะใช้สูบน้ำมารดน้ำต้นไม้ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างอื่น
ด้านนายนพนันท์ จันทบุรี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ มติที่ประชุมก็คือ ชาวบ้านหนองบัวหมู่ 7 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ เพราะแนววางท่อ จะไปที่หมู่ 8 กับหมู่ 14 ทางกรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 จะมีแนวทางแก้ไขปัญหา ก็คือ จะขยายแนวท่อเพิ่มให้กับชาวบ้าน หรือ จะก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติม แต่จากมติที่ประชุม ตอนนี้ทางชาวบ้านไม่มีความต้องการที่จะขยายแนวท่อ ทางชุมชนมีระบบสูบน้ำของตัวเองอยู่แล้ว จึงขอยุติการขยายโครงการไว้ก่อน และให้งดใช้น้ำ ยุติการส่งน้ำไว้ทั้งหมด ซึ่งทางกรมทรัพยากรน้ำ ได้ทำการชี้แจงกับชาวบ้าน ว่า ถ้าระบบส่งน้ำยังไม่ทั่วถึง ทางหน่วยงานเอง หรือทาง อบต. ก็ยินดีที่จะขยายแนวท่อให้ แต่ชาวบ้านไม่ต้องการ ขอหยุดไว้เพียงเท่านี้ แต่หากในอนาคต ชาวบ้านมีความต้องการก็สามารถประสานไปยัง กรมทรัพยากรน้ำ หรือประสานไปยังท้องถิ่นเสนอขอโครงการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำได้