
ศุลกากรหนองคาย นำรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ พร้อมเครื่องเอกซเรย์พกพา ตรวจห่อพัสดุ บรรจุภัณฑ์ทั้งเตรียมนำเข้าส่งออก ป้องกันการลักลอบค้ายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย




















บ่ายวันนี้ (25 เม.ย.68) นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย, นายภาคิน เทียบคำ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร บก.ควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ฝ่ายปกครอง นำรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ และเครื่องเอกซเรย์ ชนิดมือถือ (Hand Held) ออกตรวจสอบสถานประกอบการตัวแทนขนส่งสินค้าโลจิสติกส์ในพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย ซึ่งได้ทำการสุ่มตรวจกล่องพัสดุ บรรจุภัณฑ์ ที่มีการห่อหุ้มเตรียมนำส่งให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายลักลอบนำเข้าส่งออกยาเสพติด และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีความคิดจะกระทำความผิดได้กลับใจเนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันเอาจริงเอาจังเพื่อปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท
นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดชายแดน ที่ผ่านมามีการลักลอบใช้พื้นที่จังหวัดหนองคายเป็นทางผ่านนำเข้าส่งออกสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด มีทั้งการจับกุมได้ตั้งแต่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย –ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย และตามช่องทางธรรมชาติ หรือเมื่อหลุดรอดจากจังหวัดหนองคายไปยังพื้นที่ตอนใน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจับกุมได้สอบถามต้นทางปรากฏว่าบางส่วน มาจากพื้นที่จังหวัดหนองคาย ดังนั้นตามนโยบายรัฐบาลจังหวัดหนองคายได้ดำเนินมาตรการ seal สนธิกำลังทุกหน่วยงานสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติด บูรณาการกำลังตำรวจ ทหาร ประชาชน จิตอาสาช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งการนำรถเอกซเรย์ของกรมศุลกากรมาใช้ในปฏิบัติการ seal นี้จะเป็นการช่วยตรวจสอบได้อีกทางหนึ่ง โดยเริ่มต้นที่อำเภอเมืองหนองคาย จากนั้นก็จะเดินทางไปทุกอำเภอเสี่ยงของจังหวัด ย้ำว่าเจ้าหน้าที่เข้มงวด จะใช้มาตรการป้องกันปราบปราม สกัดกั้น และจับกุมทุกกลุ่มที่กระทำความผิด
ด้านนายภาคิน เทียบคำ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า รถเอกซเรย์คันนี้ รวมถึงเครื่องเอกซเรย์แบบพกพา มีประสิทธิภาพในการตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายได้อย่างแม่นยำ ไม่มีทางที่จะหลุดรอดการเอกซเรย์ไปได้ หรือแม้กระทั่งศักยภาพของเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านพรมแดนหรือจุดตรวจต่าง ๆ ก็มีทักษะสังเกต ตรวจค้น นำสู่การจับกุมผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด นำเข้ายาเสพติด ซุกซ่อนยาเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ มาแล้วมากมายซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายดีขึ้น
ทั้งนี้ ในการปราบปรามยาเสพติดปีงบประมาณ 2568 จังหวัดหนองคาย มีการจับกุมคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด 684 คดี, ขยายผลจากการจับกุมในคดีความผิดร้ายแรง 14 คดี, อายัดทรัพย์สิน 36 ล้านบาท.