
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ลงพื้นที่ภาคอีสานจัดงานสัมมนา “FTA ขยายธุรกิจพิชิตส่งออก” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการ SMEs ภาคอีสานจากจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร และหนองคาย ผลักดันมูลค่าการส่งออกท่ามกลางสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนไป หลังจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีระลอกใหม่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนาจัดโดยกรมการค้าต่างประเทศ ภายใต้โครงการส่งเสริม SMEs ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล เรื่อง “FTA ขยายธุรกิจ พิชิตส่งออก”












เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ณ โรงแรมแม่โขง เฮอริเทจ จังหวัดนครพนม เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ภาคอีสาน โดยมีผู้ประกอบการ SME สนใจเข้าร่วมมากกว่า 100 คน จาก 4 จังหวัดพื้นที่ภาคอีสาน ได้แก่ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร และหนองคาย เพื่อสร้างความพร้อมในการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA ที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการส่งออกของไทย และเป็นอาวุธสำหรับผู้ประกอบการในการรับมือกับ การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกของสหรัฐอเมริกา งานสัมมนานี้กระทรวงพาณิชย์มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจต่อความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนในตลาดการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากสหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยที่มีสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 รวมถึงผลกระทบทางอ้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการเบนเข็มการส่งออกของประเทศต่าง ๆ ที่จะทำให้การแข่งขันของตลาดภายในประเทศไทยมีความรุนแรงขึ้นจากสินค้านำเข้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญพันธมิตรภาคเอกชนจากสภาผู้ส่งออก ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงการค้าระหว่างประเทศ มาร่วมเสวนากับผู้บริหารของกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น โอกาสและความท้ายทาย ตลอดจนแนวทางการรับมือหลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA ที่จะสามารถช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว สร้างแต้มต่อทางการค้า ขยายตลาดส่งออกไปยังตลาดใหม่และตลาด ที่ไทยมี FTA ลดต้นทุนทางภาษี และเพิ่มมูลค่าการค้าของไทยในสภาวะการแข่งขันที่มีความท้าทาย
นายพิชัยฯ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์นอกจากได้เตรียมพร้อมในการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อให้ลดภาษีนำเข้าแก่ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่จัดเป็นกลุ่มเปราะบางของประเทศให้มีความพร้อมในการรับมือกับกระแสความเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก โดยการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศคู่ค้าที่บังคับใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน และจะใช้บังคับได้เพิ่มขึ้นเป็น 16 ฉบับกับ 23 ประเทศคู่ค้าในปี 2569 โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีไทย – สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ที่เป็น FTA ฉบับใหม่ที่มีกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดที่ทันสมัย และเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีมาตรฐานสูงอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ เป็นต้น โดยเชื่อว่าการใช้ประโยชน์จาก FTA อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นเครื่องมือในการขยายตลาด และช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทดแทนการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และส่งเสริมสินค้าที่ไทยมีศักยภาพสูงให้ต่อยอดการส่งออกต่อไปได้
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลการจัดสัมมนาได้ทางเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th รวมทั้งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 02 547 4855 หรือ สายด่วน 1385