วันที่ 2 กันยายน 2565 เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์วัฒนธรรมไทแสก ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม นายปรีชา ศรีสงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอาจสามารถ เป็นประธานเปิดกิจกรรมการประกวดอาหารท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว “แนวกิน แนวแซ่บอาจสามารถ” เพื่อการยกระดับอาหารพื้นบ้านสู่อาหารการท่องเที่ยว สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับวัฒนธรรมอาหารที่มีในพื้นที่ โดย มหาวิทยาลัยนครพนม ร่วมกับ อบต.อาจสามารถร่วมจัดฯ

การประกวดอาหารท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว “แนวกิน แนวแซ่บอาจสามารถ” เป็นหนึ่งกิจกรรมภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยยุทธศาสตร์ BCG (U2T for BCG) มหาวิทยาลัยนครพนม มี ดร.อนุชิต สิงห์สุวรรณ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม เป็นหัวหน้าโครงการ
ดร.อนุชิต สิงห์สุวรรณ เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลอาจสามารถ เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้อาศัยและพึ่งพาฐานทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนเพื่อการดำรงชีพ การประกอบอาหารเป็นวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่สะท้อนให้เห็นถึงกลไกการปรับตัวให้สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยรู้จักใช้ผลผลิตทั้งพืชและสัตว์ที่มีในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการแก่สมาชิกในครอบครัวและชุมชน ซึ่งการจัดกิจกรรม ฯ ดังกล่าว เป็นการยกระดับอาหารพื้นบ้านสู่อาหารการท่องเที่ยวในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับวัฒนธรรมอาหารที่มีในพื้นที่ ซึ่งได้นำองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยถ่ายทอดให้กับชุมชน ทั้งในเรื่องศิลปะการประกอบอาหาร ,เทคนิคในการสร้างเรื่องเล่า (Story) ,การให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเพื่อพัฒนา และปรับปรุงอาหารพื้นบ้านให้มีรูปลักษณ์สวยงามสะท้อนถึงภูมิปัญญาอันเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลอาจสามารถ เข้าร่วมการประกวดอาหารจำนวน 5 กลุ่ม เป็นการสร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น เช่น ปลาแม่น้ำโขง กบ ไข่มดแดง และไก่งวงที่เป็นผลผลิตจากวิสาหกิจชุมชนบ้านคำเกิ้ม






ดร.วรวุฒิ อินทนนท์ คณบดีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) ซึ่งเป็นนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ดำเนินการโดยสำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ในพื้นที่ 7,435 ตำบล ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นการนำเอาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของสถาบันอุดมศึกษา นำไปขับเคลื่อนภาคการผลิตและบริการในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพิ่มและรักษาระดับการจ้างงาน อาทิเช่น การเกิดธุรกิจใหม่ การขยายตัวทางธุรกิจ การเติบโตของการลงทุน การเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ และการเพิ่มการบริโภค เป็นต้น ซึ่งในส่วนของคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์นั้น ได้ดำเนินโครงการในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ครอบคลุมพื้นที่ 12 ตำบล โดยการประกวดอาหารท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว “แนวกิน แนวแซ่บอาจสามารถ” เป็นกิจกรรมที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ให้เกิดความอย่างยั่งยืนในด้านเชิงการท่องเที่ยว
นายปรีชา ศรีสงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอาจสามารถ เปิดเผยว่า ชุมชนตำบลอาจสามารถเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง มีจำนวน 11 หมู่บ้าน 1,933 ครัวเรือน และมีประชากรมากถึง 7,103 คน ในความเป็นมาทางประวัติศาสตร์นั้น กลุ่มคนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นกลุ่มคนไทแสกที่ได้อพยพเคลื่อนย้ายมาจากดินแดนลาวทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง นอกจากนี้ยังมีคนกลุ่มเวียดนาม และกลุ่มคนลาวกระจายอยู่ทั่วไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ส่วนกลุ่มคนไทแสกนั้นเป็นกลุ่มชนที่มีภาษา และการแต่งกายที่เป็นลักษณะเฉพาะถิ่น ไทแสกที่บ้านอาจสามารถมีองค์ความรู้และภูมิปัญญาในการจับปลา การประกอบอาหาร ตลอดจนมีความเชื่อเรื่องพิธีกรรม และวิถีการดำเนินชีวิตที่ผูกพันกับลำน้ำโขง การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับอาหารพื้นบ้านให้กลายเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ให้กับเนื้อสัตว์ พืช และผักที่มีในท้องถิ่น อันเป็นการใช้ทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่มีอยู่ในพื้นที่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน
การประกวดอาหารท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว “แนวกิน แนวแซ่บอาจสามารถ” ดร.กันตภพ บัวทอง อาจารย์ประจำสาขาวิชาการโรงแรม ภัตตาคาร และอีเว้นท์ วิทยาลัยการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ พร้อมด้วยคณะ เป็นกรรมการตัดสิน ซึ่งผลการตัดสิน มีดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมแซ่บนัวครัวไทบ้าน รับเงินรางวัล 3,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมหนุ่มสาวไทแสก รับเงินรางวัล 2,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมสาวไทบ้าน รับเงินรางวัล 1,000 บาท รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ ทีมจักรสานสำราญใต้ และทีมสามอนงค์ รับเกียรติบัตรเข้าร่วมการแข่งขัน
ซึ่งนอกจากการประกวดแข่งขันอาหารท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว ยังมีการแสดงวงดนตรี ลูกทุ่ง-หมอลำ จากนักศึกษามหาวิทยาลัยนครพนม มาร่วมสร้างความบันเทิงให้กับผู้มาร่วมงาน ทั้งนี้ นางสาวจรินทร โคตพรม รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยนครพนม ยังได้เดินทางมาร่วมให้กำลังใจทีมคณะผู้จัดกิจกรรมด้วย