วันที่ 22 มี.ค.66 ที่หน้า สภ.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกุล รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม ร่วมแถลงว่า ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 คืนทรัพย์สินให้กับชาวบ้านในจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจค้นห้องพักแห่งหนึ่งในเขตอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม และสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้กว่า 30 คัน ซึ่งคาดว่าเตรียมนำส่งประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อซื้อรถหลุดจำนำในผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากอาจเข้าข่ายเป็นรถผิดกฎหมาย รายละเอียดของกลางที่ยึดได้ อาวุธปืนสงคราม ปืนยาว AK-47 จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุน AK-47 จำนวน 2 ซอง เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 13 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22lr จำนวน 20 นัด รถจักรยานยนต์ จำนวน 34 คัน รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน อะไหล่ส่วนควบจักรยานยนต์ อุปกรณ์เครื่องมือช่าง





ชาวบ้านในจังหวัดนครพนม และจังหวัดใกล้เคียง เข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ที่ชุดสืบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และชุดศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 หรือ ศปจร.ภ.4 ตรวจยึดได้เมื่อสัปดาห์ก่อนกว่า 30 คัน ซึ่งวันนี้ ตำรวจได้ให้ชาวบ้านนำเอกสารหลักฐานการครอบครองรถมาแสดงเพื่อรับรถคืน นอกจากนี้ ชุดสืบสวน ยังสืบทราบว่า มีการสั่งซื้อรถจักรยานยนต์ยนี่ห้อฮอนด้า โดยเฉพาะรุ่น PCX ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ออโตเมติก ทัวริ่ง ซึ่งมีราคาสูง และถูกโจรกรรมในหลายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี จึงได้วางกำลังสังเกตการณ์ตามจุดเป้าหมาย กระทั่งสามารถติดตาม ตรวจยึด รถยนต์กระบะ โตโยต้า ติดป้ายทะเบียน กต 9428 หนองคาย จำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อฮอนด้า แผ่นป้ายทะเบียนโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง อุปกรณ์เครื่องมือช่าง พร้อมผู้ต้องหาอีก 4 คน



พลตำรวจตรีพุฒิพงษ์ มุสิกูล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามจับกุมและขยายผล หลังจากได้รับแจ้งเหตุรถหายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 เป็นจำนวนมาก จนสมารถติดตามจับกุมได้ในที่สุด และขอฝากแจ้งเตือนประชาชน กลุ่มผู้ที่ซื้อรถผ่านเพจรถหลุดจำนำต่างๆ ให้รีบนำรถที่ซื้อไปโดยผิดกฎหมายจากเพจเหล่านี้ มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากรถที่ซื้อไปนั้นอาจเป็นรถที่ได้มาจากการกระทำผิด ซึ่งถือเป็นความผิดฐาน “รับของโจร”ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ