เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แปลงที่ดินภายใน ร.ร.บ้านกกดู่ ต.กกดู่ อ.เมืองเลย จ.เลย นายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนายพยุง เหล็กดี นายอำเภอเมืองเลย นางชัชฎา จันทร์สว่าง สจ. เขตอำเภอเมืองเลย นายภูวดล อัศวรัตนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกกดู่ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมครู นักเรียน จัดกิจกรรมย่ำขี้ควายเพื่อทำสระในการกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาตั้งแต่บรรพบุรุษ


นายภูวดล อัศวรัตนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกกดู่ เปิดเผยว่า รร.บ้านกกดู่ ตั้งอยู่ในท้องถิ่นห่างไกลในสภาพของป่า สวนยาง พืชไร่ พืชสวน ทางการเกษตร ประชาชนยึดอาชีพการเกษตรเป็นหลัก ประกอบการลงทุนที่สูงขึ้นทุกวัน สินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ต่อการทำเกษตรสูงขึ้น ๆ ทั้งปุ๋ย และ ยาปราบศัตรูพืช การลดต้นทุนการผลิตจึงมีความจำเป็นมากในยุคนี้
อบต.กกดู่จึงร่วมกับ รร.บ้านกกดู่ ที่มีเด็กนักเรียนกว่า 200 คน ความจำเป็นที่ต้องมีอาหารที่ครบ ถ หมู่ อาหารกลางวันต่อสุขภาพร่างกายและการเจริญเติบโตตามวัยเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ ความรู้ความสามารถ ลดปัญหาทางครอบครัวลง จึงทำแปลงเกษตรจำนวน 3 ไร่ภายในโรงเรียนฯ ทำการสระน้ำ นำเอาขี้ควายเปียกตามหมู่บ้านจากคอกและสวนควาย มารวมกันแล้วทำการลุยย่ำขี้ควายเหมือนกับการยาลานข้าวในอดีตของชาวนาในชนบทของไทย เพราะมูลหรือขี้ควายมีประโยชน์สูงทั้งเป็นสารอาหารเป็นปุ๋ยและยังสามารถป้องกันการไหลการซึมของน้ำและเก็บกักน้ำได้อีกด้วย เหมาะกับการทำการเกษตรทฤษฏีใหม่ เมื่อย่ำขี้ควายแล้วก็ทำเป็นสระน้ำ จากนั้นจะทำการหว่านเมล็ดข้าวลงแปลง ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล รอบสระน้ำ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสระ เพื่อเป็นแหล่งอาหารทั้งสัตว์และพืชในการเกษตรแปลงใหญ่แห่งนี้ ใช้โครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” มาปรับประยุกต์ใช้ด้วย ต่อไปก็เป็นแปลงสาธิตให้เด็กนักเรียนเรียนรู้ด้านการเกษตรที่ถูกต้องตามหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงไร้สารพิษ สร้างรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ 100 % ปลูกฝังให้แก่เด็ก-นักเรียน ทั้งขบวนการปลูก การดูแล สร้างแหล่งอาหารกลางวันได้อย่างดีครบวงจร ตบอดจนการสาธิตกรีดยางพาราจะเป็นการสร้างองค์ความรู้ สร้างงาน มีรายได้ที่เข้มแข็งสู่อนาคตที่ดีและมั่นคงต่อไป