เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีบริรักษ์ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เรียกประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย โดยมีนายณัฐพล แป้นนอก สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น นายปิยะพงษ์ คลังทอง นายอำเภอเปือยน้อย พ.ต.อ.เดชาธร ดีมี ผกก.สภ.เปือยน้อย นายนิกร เทศต้อม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเปือยน้อยและสิบตำรวจโท บัญชา คงนวนอินทร์ ปลัดเทศบาลตำบลเปือยน้อย ร่วมประชุม




นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินการในทุกขั้นตอน ขอให้ทุกฝ่ายทำอย่างรอบคอบ และรวบรวมหลักฐานเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน และในการตรวจสอบหรือสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นให้ลงรายละเอียดกำกับด้วยว่า สามารถนำไปใช้ในขบวนการชั้นศาลได้ ซึ่งขณะนี้คณะทำงานที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีความคืบหน้าไปมาก แต่ในรายละเอียดบางเรื่อง ไม่สามารถเปิดเผยได้
ขณะที่นายณัฐพล แป้นนอก สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กรณีที่มีญาติพี่น้องของคนที่ทำงานในสหกรณ์ ยื่นกู้เงินในสหกรณ์ตั้งแต่ 800,000-1,000,000 บาท โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการดำเนินการที่ผิดต่อระเบียนของสหกรณ์หรือไม่ ซึ่งในส่วนตรงนี้คณะกรรมการเฉพาะกิจที่ลงไปทำหน้าที่จะต้องตรวจสอบทุกประเด็น และในกรณีการจ่ายเงินกู้ที่ไม่มีหลักประกันเช่นเดียวกัน ต้องตรวจสอบว่าจ่ายไปลักษณะไหนและก็เป็นไปตามระเบียบของสหกรณ์หรือไม่ และถ้าคณะกรรมการตรวจสอบแล้วพบความกระทำผิดระเบียบ ก็ต้องแจ้งความดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดนั้น
สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า จากการทำงานของคณะผู้ตรวจที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้พบความผิดปกติหลายอย่าง และให้เขาทำตามอำนาจหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่ ทางสหกรณ์จังหวัดจะเป็นพี่เลี้ยง หากติดขัดอะไรตรงไหนก็จะช่วยหาทางออกให้ ซึ่งการตรวจสอบให้เวลาผู้ตรวจถึงวันที่ 21 มิถุนายนนี้ และถ้าเวลาไม่เพียงพอก็สามารถขยายไดอีก
“ฝากถึงประชาชนกลุ่มที่เป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว และหลังจากที่มีการตรวจสอบผ่านไป 1-2 วันกลับได้ใบเสร็จรับเงินและยืนยันว่าไม่ได้เป็นหนี้แล้วนั้น และบางคนที่ได้ใบเสร็จถูกลอบบี้และกดดันให้เอาใบเสร็จมาคืนนั้น การกระทำในลักษณะเช่นนี้ มันก็เข้าข่ายที่ร่วมกับผู้กระทำผิด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จะต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเป็นการร่วมกับผู้กระทำผิด เราก็ต้องเอาผู้ที่กระทำแบบนี้มาลงโทษ ในส่วนของคนที่ได้ใบเสร็จแล้ว ไปถอนแจ้งความซึ่งเป็นอาญาแผ่นดินนั้น ถ้าเป็นอาญาแผ่นดินไปแล้ว มันยอมความไม่ได้ เพราะความผิดมันเกิดไปแล้ว”
สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในทุกความสงสัย ในทุกประเด็น สหกรณ์ขอนแก่น ขอยืนยัน ว่า คณะผู้ตรวจของสหกรณ์ขอนแก่น ทำงานจริงจัง รวบรวมหลักฐานต่างๆ ถ้าโยงใยถึงใครที่อยู่เบื้องหลัง ก็จะรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งในเชิงลึกนั้น มีความเชื่อมโยงถึงบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คณะกรรมการ ซึ่งได้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว และในส่วนของหลักฐานต้องดูความชัดเจน เพราะคณะทำงาน ไม่เชื่อว่าการกระทำผิดที่เกิดขึ้นในสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยนั้น ไม่ใช่คนทำผิดเพียงคนเดียว โดยคณะทำงานขอเวลาตรวจสอบ และหากครบ 15 วัน ยังสรุปไม่ได้ก็ต้องขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน ทางสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นขอยืนยันว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับทางสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนคณะกรรมการทั้ง 13 คน ซึ่งก็ได้ข้อมูลในเชิงลึกที่เป็นประโยชน์มาก และหากพบหลักฐานคนที่มีส่วนร่วมการกระทำผิดทุกกรณี