เกษตรกรในอำเภอนาคู และอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์อ่วม หลังได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาภูพานทะลักลงสู่ลำพะยังเอ่อท่วมต้นข้าวเน่าเสียหายหลายพันไร่ ต้องแบกรับภาระการปักดำต้นข้าวใหม่รอบสอง ระบุสาเหตุหลักนอกจากฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากแล้ว อีกหนึ่งสาเหตุคือฝ่ายกักเก็บน้ำโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูลำพะยังขาดการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบในช่วงน้ำหลาก พร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แก้ปัญหาอย่างจริงจัง

วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะฝนตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาภูพานไหลทะลักลงมาทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำลำพะยังเออล้นตลิ่งท่วมนาข้าวในพื้นที่ อำเภอนาคู และอำเภอเขาวง จ.กาฬสินธุ์เป็นบริเวณกว้าง โดยมีนาข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ 2 อำเภอ 4 ตำบลได้รับ ผลกระทบหลายร้อยไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอนาคู ที่ได้รับผลกระทบ คือพื้นที่ตำบลสายนาวัง ตำบลโนนนาจาน และ ตำบลภูแลนช้าง เนื่องจากมีนาข้าวถูกน้ำท่วม ประมาณ 2,000 กว่าไร่

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์หลังน้ำลด ซึ่งพบว่านาข้าว ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ ต้นข้าวที่ปักดำไว้ถูกน้ำท่วมและกระแสน้ำพัดได้รับความเสียหายจำนวนมาก บางรายเสียหายทั้งแปลง และบางรายเสียหายบางส่วน ซึ่งต้องเสียแรงและแบกรับภาระการปักดำต้นข้าวใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบพนังกั้นน้ำลำพะยัง ถนนเลียบลำพะถูกกระแสนย้ำกัดเกาะขาดเสียหายหลายจุดอีกด้วย
จากการสอบถามนายสอน พิมเภา อายุ 65 ปี ชาวนาในพื้นที่บ้านหนองห้าง หมู่ที่ 4 ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในเกษตรที่ได้รับผลกระทบ ได้ให้ข้อมูลว่า พื้นที่นาของตนนั้น ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว เพราะว่ามีพื้นที่ติดกับลำห้วยลำพะยังที่น้ำป่าไหลมาจากพื้นที่อำเภอเขาวง และลำห้วยยาง ที่ไหลมาจากเทือกเขาภูพาน อำเภอภูพาน จ.สกลนคร มาบรรจบกันบริเวณที่ติดกับแปลงนาของตน
นายสอน กล่าวต่อว่า ปีนี้น้ำท่วมรุนแรงกว่าทุกๆปี ทำให้นาข้าวของตนและพี่น้องเกษตรกรอีกหลายสิบรายในพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งนี้สาเหตุหลักนอกจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากลงมาลำพะยังเอ่อเข้าท่วมแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะขาดการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการการเปิด-ปิดประตูน้ำของฝ่ายกักเก็บน้ำ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูลำพะยัง บ้านหนองห้าง ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จ.กาฬสินธุ์ เพราะไม่ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำหรือวางแผนในช่วงเวลาฝนตกและเวลาน้ำหลาก จึงทำให้เกิดน้ำท่วมเกิดความเสียหายมากกว่าปกติ







นายสอน กล่าวอีกว่า ที่สำคัญเท่าที่ทราบฝ่ายกักเก็บน้ำ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูลำพะยังไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรับผิดชอบมาดูแลในช่วงน้ำหลาก และปล่อยให้ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจัดการกันเอง ต่างคนต่างทำ ทำให้ความคิดของชาวบ้านขัดแย้งกัน เนื่องจากบางคนที่มีพื้นที่นาอยู่ที่สูงก็ต้องการที่จะให้ปิดบานประตูระบายน้ำเพื่อสูบน้ำทำนา แต่ในส่วนของคนที่มีที่นาอยู่ที่ลุ่มก็เห็นสมควรว่า ฤดูฝนแล้ว ก็อยากให้มีการเปิด ประตูระบายน้ำตลอดสายทั้งหมด เพราะหากไม่มีการเปิดประตู เพื่อระบายน้ำพอน้ำที่ไหลมา จากลำพะยัง และลำห้วยยาง มวลน้ำมหาศาลไม่มีทางระบายน้ำทำให้น้ำเออล้นเข้าท่วมนาข้าวอย่างรวดเร็วและ ได้รับผลกระทบ เป็นวงกว้างเหมือนทุกๆปี จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง สำหรับความเสียหายในพื้นที่นาของตนนั้น ต้นข้าวเน่าเปื่อยคงต้องเสียแรงและแบกภาระปักดำใหม่รอบสอง รวมทั้งต้องเฝ้าระวังในช่วงฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลัน เพราะตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกครั้งหรือไม่
ด้านนายสนุ๊ก ไชยสินธุ์ อายุ 55 ปี เกษตรใน ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับปีนี้น้ำท่วมถือว่าหนักและกว้างกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะปริมาณน้ำที่ ไหลมาอย่างรวดเร็ว ประกอบกับไม่มีการเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำไหลผ่าน จนน้ำเอ่อล้น ออกทางพนันกั้นน้ำบนถนนดินทะลักเข้าท่วมนาข้าวชาวบ้านใน 2 อำเภอ จนได้รับความเสียหาย และเกิดดินสไลด์ อย่างไรก็ตามอยากจะให้มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบของการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ ตรงจุดฝายกักเก็บน้ำโครงการอนุรักษ์พื้นฟูลำพะยัง บ้านหนองห้าง ตำบลโนนนาจาน ให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ และอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลการเปิด-ปิดประตูน้ำแทนที่จะให้ชาวบ้านมาดูแลกันเอง เพราะความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกันถ้าหากมีเจ้าหน้าที่มาควบคุมดูแลเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมไปมากกว่านี้และเกิดปัญหาความขัดแย่งบานปลายในอนาคต