วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 -15.00 น. มหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเชิงพื้นที่และสนับสนุนงานด้านวิชาการ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายสุขภาวะ (องค์กรที่รับทุน สสส.) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านการวิจัย การเรียนการสอน และการบริการวิชาการแก่สังคม ที่ห้องประชุมพนมนาคา ชั้น 5 อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม โดยพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ มีนายสมยศ สีแสนซุย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยนครพนม และ ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ เป็นผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งกรอบความร่วมมือการทำงานร่วมกันครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ด้าน สร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยการสนับสนุนการบริการแก่สังคม การวิจัย และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม สนับสนุนงานวิชาการในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายสุขภาวะ (องค์กรที่รับทุนจาก สสส.) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนการวิจัย การสรุปบทเรียนการทำงานของภาคีเครือข่ายสุขภาวะ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ





โดยกรอบความร่วมมือมีระยะเวลา 18 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้ลงนามของทั้งสองฝ่าย และเพื่อให้ข้อตกลงเกิดเป็นรูปธรรมและผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ของความร่วมมือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จึงได้สนับสนุนงบประมาณให้กับมหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อดำเนินโครงการด้านบริการวิชาการแก่สังคม ภายใต้ชื่อโครงการ “เชื่อมประสานโครงการเชื่อมประสานภาคีเครือข่ายสุขภาวะ ภาคอีสาน” ด้วยวงเงินงบประมาณ 4,500,000 บาท ในการสร้างเครือข่ายกลุ่มคนทำงานด้านสุขภาวะและสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับประเด็นขับเคลื่อน 6 ประเด็น ประเด็นการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม ประเด็นเด็กและเยาวชน ประเด็นสังคมสูงวัย ประเด็นอาหารปลอดภัย ประเด็นสุขภาพจิต ประเด็นแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด





ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยนครพนมได้มอบหมายให้ ดร.คณิน เชื้อดวงผุย อาจารย์ประจำสาขาวิชาพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และในฐานะผู้จัดการหน่วยจัดการจังหวัด ระดับที่มีจุดเน้นสำคัญ (Node flagship) จังหวัดนครพนม เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงาน


สำหรับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจนี้ ถือเป็นการเปิดรับความร่วมมือของมหาวิทยาลัยนครพนมกับองค์กรภายนอก เพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคีที่เกี่ยวข้องให้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนเสริมการพัฒนาเชิงพื้นที่ การบริการวิชาการให้กับสังคม รวมถึงการต่อยอดไปสู่งานวิจัยและการเรียนการสอนต่อไป