นางแสงมณีจรรณ์ เพชรสังหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่จังหวัดนครพนม ที่นำโดยนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีแนวนโยบายที่จะขับเคลื่อนยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการศึกษาให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น เพื่อสร้างเยาวชนที่พร้อมเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไปในอนาคต ดังนั้นจึงได้มีการบูรณาการความร่วมมือคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) นครพนม ลงพื้นที่เยี่ยมและติดตามแต่ละสถานศึกษาในพื้นที่ ใน 15 ประเด็นหลัก โดยในวันที่ 16 สิงหาคม 2566 นี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้นำคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครพนม กระจายกันลงพื้นที่โรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม ก่อนที่ทุกคนจะมารวมกันที่โรงเรียนธาตุพนม เพื่อสรุปสิ่งที่ได้พบเห็น สิ่งที่โรงเรียนต้องการ และสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมของแต่ละโรงเรียน เพื่อหาแนวทางร่วมกันและแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้รับทราบนำไปสู่การแก้ไขต้นตอของปัญหาที่แท้จริง







ซึ่งในส่วนของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนมได้รับผิดชอบโรงเรียนบ้านน้ำก่ำ (สิทธิผลนุกูล) ที่ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 10 บ้านน้ำก่ำ ตำบลน้ำก่ำ มีการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 166 คน เป้นชาย 76 คน หญิง 90 คน มีบุคลากรทางการศึกษารวมทั้งสิ้น 14 คน มีนายวิไลศิลป์ แสงสุวรรณเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเก่าแก่ในพื้นที่ ที่ได้รับการยอมรับของชุมชน มีลูกศิษย์มาแล้วอย่างมากมาย ด้วยมีการเรียนการสอนมาแล้ว 100 กว่าปี ที่สำคัญคือไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาทางการศึกษา ปัจจุบันมีการเรียนการสอนแบบ Active Learning ทั้งหมด เน้นให้นักเรียนมาเรียนแล้วเหมือนอยู่บ้านหลังที่ 2 โดยยังคงหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ด้วยการนำนวัตกรรมจิตศึกษา มาบูรณาการร่วมกับ PBL (Problem Based Learning) และ PLC (Professional Learning Community) เพื่อสร้างสนามพลังบวกให้กับนักเรียนทุกคน มีครูทำหน้าที่เป็นโค้ช คอยให้คำแนะนำ ช่วยกระตุ้นและสร้างการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่งจากความต้องการและจินตาการของนักเรียน ที่ทุกวันก่อนเริ่มเรียนและระหว่างวัน จะมีกิจกรรมเตรียมสภาวะจิตนักเรียน บริหารสมองและให้ประสบการณ์ที่ทำให้เกิดการ reflection จากนั้นครูจะเสริมพลังบวกให้ทุกคนได้คิด วิเคราะห์ และต่อยอดจินตนาการ พร้อมพาลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง รวมทั้งส่งเสริมให้เด็กทุกคนรู้สึกได้รับเกียรติและตระหนักถึงคุณค่าในตัวเอง จึงส่งผลให้กลายเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง สนุกกับการเรียนที่ไม่หยุดนิ่งในสิ่งใหม่ๆ ที่มาจากความต้องการและจินตนาการของแต่ละคนพร้อมเติมเต็มความรู้ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูและลูกศิษย์
ขณะที่ครูก็จะมีการตื่นรู้ในสิ่งที่ทำ มีความพยายามเปลี่ยนวิธีการสอนที่เข้าใจเด็กมากขึ้น มีการนำประสบการณ์สอนมาถอดบทเรียนร่วมกันสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และวางแผนพัฒนาเด็กนักเรียนในแต่ละระดับชั้นให้เกิดการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องทุกระดับชั้น ร่วมกันพัฒนาศักยภาพในด้านอื่น ๆ ของโรงเรียน ให้มีความสะอาด ร่มรื่น ปลอดภัย ซึ่งใครที่เข้ามาในโรงเรียนนี้ จะเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่ไม่มีเสียงออด ไม่มีการบังคับเด็ก แต่เป็นวิถีการเรียนการสอนแนวใหม่ ที่ให้เด็กได้กำกับตัวเอง ว่าเวลาไหนควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ไม่มีการเปรียบเทียบ เต็มใจร่วมกิจกรรม และจดจ่อกับสิ่งที่ได้เรียน และกลายเป็นต้นแบบของโรงเรียนอื่น ๆ ได้มาศึกษาเรียนรู้และนำไปต่อยอดขยายผล เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต